Wednesday, November 28, 2012

ดีเอสไอฟัน แทนกับพวก รุกที่เขาแพง

ดีเอสไอฟัน แทนกับพวก รุกที่เขาแพง
ดีเอสไอสรุปสำนวนสั่งฟ้อง “แทน เทือกสุบรรณ” ลูกชาย สุเทพ เทือกสุบรรณ คดีบุกรุกที่เขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ฯ 14 ไร่ นัดนำตัวส่งฟ้องอัยการจันทร์ 3 ธ.ค.นี้ ...ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 พ.ย. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอแถลงสรุปสำนวนสั่งฟ้องนายแทน เทือกสุบรรณ ลูกชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายพงษ์ชัย ฟ้าทวีพร ผจก.ห้างหุ้นส่วนเรืองปัญญาคอนสตรัคชั่น นายสามารถ เรืองศรี นายบรรเจิด เหล่าปิยะสกุล รวม 4 คน ในคดีบุกรุกที่ดินสาธารณะในพื้นที่เทือกเขาแพงหมู่ 6 ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมจำนวน 45 ไร่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า จากกรณีมีการร้องเรียนต่อดีเอสไอกรณีการบุกรุกที่ดินของรัฐและป่า ในพื้นที่เทือกเขาแพง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ฯ ของนายแทนเทือกสุบรรณ กับพวก ที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบโดยมีการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2555 ให้กรณีการบุกรุกที่ดินของรับและป่าในพื้นที่อำเภอเกาะสมุยจังหวัดสุราษฎร์ฯ เป็นคดีพิเศษโดยมีอัยการจากสำนักงานอัยการสูงสุดร่วมสอบสวน จากการลงพื้นที่ของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษสรุปได้ว่า การออกเอกสารสิทธิในพื้นที่เขาแพงของนายแทน เทือกสุบรรณ กับพวกเป็นการออกโดยมิชอบดังนี้ 1. กรณี นส.3 ก.เลขที่ 3301, 3302 และ 3285 เป็นการออกเกินจากหลักฐาน ส.ค.1 จำนวน 2 แปลง และ นำเอา ส.ค.1 ของที่ดินแปลงอื่นมาอ้างออกในที่เกิดเหตุ โดยมิชอบอีก 1 แปลง รวมเนื้อที่ออกมิชอบจำนวน 31 ไร่ 2 งาน 97 ตารางวาผู้เกี่ยวข้องคือ ห้างหุ้นส่วนจำกัดเรืองปัญญาฯ นายพงษ์ชัย ฟ้าทวีพร หุ้นส่วนผู้จัดการฯ หจก.เรืองปัญญาฯ และนายสามารถ เรืองศรี หุ้นส่วนอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า 2. กรณีนำเอา นส.3 ก.ตามข้อ 1. มาออกเป็นโฉนดเลขที่ 28109 โดยออกเกินจากหลักฐานเดิม 14 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ผู้ที่เกี่ยวข้องคือ นายแทน เทือกสุบรรณ และนายบรรเจิด เหล่าปิยะสกุล โดยนายแทน เป็นผู้ซื้อที่ดิน นส.3 ก.ทั้งสามแปลง และนำไปออกโฉนด ซึ่งหลังออกโฉนดได้มีการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มาปิดกั้นลำรางสาธารณประโยชน์ที่ไหลจากภูเขาเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นโรงแรมและบ้านพักตากอากาศหรูบนเขาแพงของนายแทน และพวก เป็นการส่วนตัว ทำให้ประชาชนที่มีที่ดินอยู่ใต้อ่างเก็บน้ำไม่มีน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติใช้ รวมถึงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กบนพื้นที่เกิดเหตุจากเชิงเขาไปถึงยอดเขา นายธาริต กล่าวอีกว่า ต่อมากรมที่ดินได้มีคำสั่งเพิกถอนพื้นที่ส่วนเกินดังกล่าวออกจากโฉนดที่ดิน โดยให้เหตุผลว่าเป็นการนำเอาที่ดินนอกหลักฐานมาออกและที่ดินบริเวณดังกล่าว จากผลการอ่านแปลวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศของสำนักงาน ป.ป.ช. พบว่าไม่มีร่องรอยการทำประโยชน์แต่อย่างใด คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้พิจารณาและมีความเห็นว่า การกระทำของนายพงษ์ชัย ฟ้าทวีพร นายสามารถ เรืองศรี นายแทน เทือกสุบรรณ นายบรรเจิด เหล่าปิยะสกุล เป็นความผิดฐาน ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถางหรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น (ที่ดินที่มีความลาดชันเกิน 35 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นพื้นที่ป่า ตามมติ ครม.เมื่อปี 2528) และเข้าไปยึดถือครอบครอง ก่อสร้าง หรือเผาป่าในที่ดินของรัฐ โดยมิได้มีสิทธิ์ครอบครอง อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และ ประมวลกฎหมายที่ดิน อธิบดีดีเอสไอกล่าวอีกว่า คดีดังกล่าวเหตุเกิดระหว่างวันที่ 17 พ.ค.2544 ถึงปัจจุบัน ดีเอสไอจึงมีความเห็นสั่งฟ้องและจะส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนต่ออธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษในวันจันทร์ที่ 3 ธ.ค.นี้ สำหรับความผิดในเรื่องการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบซึ่งเป็นความผิดต่อเจ้าพนักงานนั้น อยู่ในอำนาจของ สำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะได้สรุปเรื่องส่งให้สำนักงาน ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนต่อไป.

อาวุธสงครามถล่ม อดีต สจ.หนองไผ่หลายสมัย ดับคารีสอร์ท

อาวุธสงครามถล่ม อดีต สจ.หนองไผ่หลายสมัย ดับคารีสอร์ท
คนร้ายไม่ทราบจำนวน ขับวีโก้บุกรีสอร์ทเพชรบูรณ์ ใช้อาวุธสงครามกระหน่ำยิงเจ้าของ ซึ่งเป็นอดีต ส.จ.หนองไผ่หลายสมัย เสียชีวิต ก่อนควบรถหนีอย่างรวดเร็ว ตำรวจเร่งล่า และยังไม่สรุปประเด็นสังหาร ทั้งการเมืองท้องถิ่น ธุรกิจ และชู้สาว...เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน 2555 ร.ต.อ.เกรียรติศักดิ์ ทองภูบาล พนักงานสอบสวน สภ.หนองไผ่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงที่บริเวณริมถนนสายหนองไผ่-ท่าแดง หมู่ 2 ต.หนองไผ่ อ.หนองไผ่ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พีรเพ็ชญ์ อุบลจิตต์ ผกก.สภ.หนองไผ่ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนด้านหน้าตาลทองรีสอร์ท พบกองเลือดกองใหญ่ไหลนองพื้น และปลอกกระสุนปืนเอชเคจำนวน 8 ปลอกตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บญาติช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลหนองไผ่ สอบสวนทราบว่าผู้ตายชื่อนายเชน แซ่เล้า อายุ 53 ปี ถูกยิงที่บริเวณหน้าผากทะลุท้ายทอย 1 นัด ขมับซ้าย 1 นัด ชายโครงด้านซ้ายทะลุหน้าท้อง 1 นัด ต้นขาทั้งสองข้างรวม 2 นัด แพทย์ได้พยายามยื้อชีวิต แต่ผู้ตายทนพิษบาดแผลไม่ไหวจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะเกิดเหตุ ผู้ตายกำลังยืนเตรียมงานที่รีสอร์ทเพื่อให้ลูกบ้านมาลอยกระทง ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ แบบแค็ปสีบรอนซ์ทองไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับมาจอดด้านข้างผู้ตาย ซึ่งยืนอยู่ริมถนน จากนั้นมือสังหารได้ใช้อาวุธปืนสงครามไม่ทราบชนิด กระหน่ำยิงจนผู้ตายล้มลง จากนั้นจึงขับรถยนต์หนีออกไปอย่างรวดเร็ว ญาติและลูกน้องได้ยินเสียงปืน จึงรีบวิ่งมาช่วยเหลือนำผู้ตายส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งนี้ ผู้ตายนั้นเป็นเจ้าของตาลทองรีสอร์ท และเป็นนักการเมืองท้องถิ่น เคยเป็นอดีต ส.จ.หนองไผ่ หลายสมัย ต่อมาจึงมาลงสมัครเลือกตั้งเป็นนายก อบต.หนองไผ่ ล่าสุด เมื่อประมาณเดือนที่ผ่านมา ได้ลงสมัครชิงตำแหน่งนายก อบต.หนองไผ่อีกครั้ง แต่แพ้การเลือกตั้ง ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถสรุปประเด็นสังหารได้ จึงตั้งไว้หลายประเด็น ทั้งการเมืองท้องถิ่น ธุรกิจ ชู้สาว และความโกรธแค้นส่วนตัว จึงจะต้องสอบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ปินส์อวดศก.ไตรมาส 3 โตสุดในอาเซียน โอ่ผลผู้นำปฏิรูป

ปินส์อวดศก.ไตรมาส 3 โตสุดในอาเซียน โอ่ผลผู้นำปฏิรูป
ฟิลิปปินส์แถลงตัวเลขเศรษฐกิจ ไตรมาส 3 ขยายตัวมากสุดในอาเซียน อยู่ที่ 7.1% โอ่เป็นผลมาจากการปฏิรูปของผู้นำประเทศ...สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อ 28 พ.ย. ว่า เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์แถลงตัวเลขเศรษฐกิจเติบโต ไตรมาส 3 ของปีนี้อยู่ที่ 7.1% ขึ้นชั้นเศรษฐกิจขยายตัวมากสุดในกลุ่มชาติอาเซียน สูงกว่าอินโดนีเซียที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดในอาเซียน 6.2%, มาเลเซีย 5.2%, เวียดนาม 4.7% และไทย 3.0% และน่าจะเกินเป้าคาดการณ์โดยรวมทั้งปีของรัฐบาลฟิลิปปินส์ที่ตั้งไว้อยู่ ที่5.0-6.0% หรืออาจใกล้ถึง7.0% ทั้งนี้ เป็นดอกผลจากการปฏิรูปด้านต่างๆ ของประธานาธิบดีเบนิกโน อาคีโนของฟิลิปปินส์นั่นเอง.

Blog Archive