Thursday, May 20, 2010

จนท.ปอเต็กตึ๊งเป็น1ใน6ศพวัดปทุมฯ

จนท.ปอเต็กตึ๊งเป็น1ใน6ศพวัดปทุมฯ



คมชัดลึก :เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ๊งเป็น 1 ใน 6 ศพ ที่พบในวัดปทุมฯ ขณะที่เจ้าหน้าที่ขนศพออกจากวัดแล้ว ด้าน"พ.อ.สรรเสริญ" ยอมรับมี"สไนเปอร์"ซุ่มยิงจริง






(20พ.ค.) เวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม จำนวน 6 คน คือ 1.นายมงคล เข็มทอง อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง 2.นายวิชัย มั่นแพ อายุ 61 ปี 3.นายอรรถชัย ขุมจันทร์ 4.นายวรเดช (ไม่ทราบนามสกุล) 5.นางอุษา ขาวปิ่น และ 6.ชายไทยไม่ทราบชื่อ 
 นอกจากนี้หลังจากผู้ชุมนุมทยอยออกจากวัดปทุมวนาราม แล้วพญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระ ทรวงยุติธรรม จะเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ของวัด แต่ทางหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ได้ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องรวมทั้งพญ.คุณหญิงพรทิพย์ ออกไปก่อนเพราะต้องมีการตรวจสอบหาวัตถุระเบิดเคลียร์พื้นที่ให้ปลอดภัยก่อน
 เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช) ที่เข้าไปหลบภัยภายในวัดปทุมวนาราม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็ก สตรี และคนชรา รวมทั้งผู้ชายที่เข้าหลบอยู่ภายใน ได้เดินทางออกจากวัดเพื่อกลับภูมิลำเนาแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปเกลี้ยกล่อมออกจากวัด ขณะที่เดินออกมาถึงหน้าวัดต้องกลับเข้าไปใหม่อีกครั้งเพราะเห็นเจ้าหน้าที่ทหารยืนอยู่บนรางรถไฟฟ้า ซึ่งตำรวจได้รับรองความปลอดภัยของผู้ชุมนุมก่อนนำตัวไปพัสำนักงานตำรวจและทยอยเดินทางออกจากพื้นที่ราชประสงค์โดยใช้ถนนพระรามที่ 1 ไปขึ้นรถโดยสารที่กระทรวงคมนาคมจัดเตรียมไว้ไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิตและสถานีรถไฟบางซื่อเพื่อกลับภูมิลำเนา โดยมีด่านการตรวจค้นเข้มผู้ที่เดินทางออกนอกพื้นที่ทุกคนรวมทั้งลงชื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าขนศพผู้ชุมนุมเสียชีวิตถูกนำศพไปเก็บไว้ในวัดออกมาอีก 6 ศพ พบว่าเป็นสตรี 1 ศพ   พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กล่าวว่า มีคนเจ็บและเสียชีวิตในวัดปทุมฯจริง โดยเป็นฝีมือพวกสไนเปอร์ ซึ่งวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าไปหาหลักฐานและสืบหาคนร้าย ส่วนที่แยกราชประสงค์ เจ้าหน้าที่กำลังเคลียร์พื้นที่ เนื่องจากมีพวกสไนเปอร์กระจายกำลังคอยป่วนเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไปปฏิบัติงานอยู่หลายจุดทั่วพื้นที่
 ก่อนหน้านี้ พ.อ.นายแพทย์ปิยะลาภ วสุวัต ศัลยแพทย์กองอุบัติเหตุ รพ.พระมงกุฎ ได้เปิดเผยกับทาง สถานีโทรทัศน์ทีวีไทยว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากการปะทะภายในวัดปทุมวนาราม จำนวน 9 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 7 ราย โดยได้นำตัวผู้บาดเจ็บออกไปรักษาพยาบาลแล้ว 5 ราย ส่วนอีก 2 ราย ไม่ยอมออกจากวัดเพื่อมาทำการรักษา โดยในส่วนผู้เสียชีวิตนั้น ต้องรอถึงช่วงเช้าจึงสามารถเข้าไปนำศพออกมาได้








ข่าวที่เกี่ยวข้อง"หมอพรทิพย์"จัดทีมเก็บหลักฐานเพลิงไหม้ น่านเผาพริก-เผาเกลือแช่งครม.-ผู้นำเหล่าทัพ ศอฉ.ประกาศเคอร์ฟิวต่ออีก3วันเริ่มวันนี้ถึงเสาร์เวลาตั้งแต่3ทุ่มถึงตี5 "ก่อแก้ว พิกุลทอง"เตรียมมอบตัวดีเอสไอ สหรัฐฯประณามผู้ประท้วงเผากรุงเทพ

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

กองกำลังผสมยิงปะทะโจรใต้ วิฯอาร์เคเค 1 ศพ

กองกำลังผสมยิงปะทะโจรใต้ วิฯอาร์เคเค 1 ศพ

กำลังผสมวิสามัญโจรใต้อีก 1 ศพ หลังปิดล้อมตลอดทั้งคืนที่ อ.รือเสาะ พร้อมยึดอาวุธปืน เอ็ม 16 พร้อมเครื่องกระสุน ส่วนที่ อ.เบตง จ.ยะลา คนร้ายบุกยิงแม่ค้าเสียชีวิต...เมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 20 พ.ค. 2553 พ.ต.ท.สมชาย จันยัง สว.สภ.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา รับแจ้งเหตุยิงกันที่บ้านเลขที่ 81 ม.6 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา มีผู้เสียชีวิต 1 ราย จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรอยเลือดกระจายอยู่หน้าบ้านและพบรอยไฟไหม้ บริเวณที่ขายน้ำมัน ส่วนเสียชีวิต คือ นางอารียา แก้วเพ็งกรอ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 ม.6 ต.อัยเยอร์เวง มีบาดแผลถูกยิงบริเวณหน้าท้อง กระสุนฝังใน 1 นัด สอบสวนทราบว่าบ้านที่เกิดเหตุได้เปิดเป็นร้านขายของชำขณะเกิดเหตุผู้ตายกำลังขายของอยู่ภายในร้านได้มีคนร้าย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะมาจอดหน้าร้าน เดินเข้ามาใช้อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 ม.ม. จ่อยิงใส่ผู้ตายจำนวน 1 นัด ก่อนหลบหนียังได้ยิงใส่ที่ขายน้ำมันเพื่อให้เกิดเพลิงไหม้ แต่ชาวบ้านช่วยกันดับไฟไว้ได้ทันส่วนความคืบหน้าหลังจากกำลังผสมทหารตำรวจในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ยิงปะทะกับกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา และสามารถวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายเสียชีวิต 1 ศพ คือ นายอิบรอเฮง สือแม อายุ 26 ปี พร้อมทั้งได้ยึดอาวุธปืน เอ็ม 16 และ เครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง ที่บริเวณลำธารริมป่าสวนยางบ้านซาตอ หมู่ 7 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จนกระทั่งมืดกลุ่มคนร้ายที่เหลือก็ยังไม่มอบตัว และเจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังโอบล้อมเพื่อป้องกันการหลบหนี ก่อนที่จะรอจนกระทั่งเช้าจึงบุกเข้าจับกุมนั้นล่าสุดเมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 20 พ.ค. 2553 พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.กรมทหารพรานที่ 46 และ น.ท.จักรกริช ศรีนนท์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 ได้ร่วมกันนำกำลังผสมเปิดแผนยุทธการบุกโจมตีกองกำลังติดอาวุธและทำลายค่ายพักย่อยของกลุ่มกองกำลัง RKK จนกระทั่ง 2 ฝ่าย ได้เปิดฉากยิงปะทะกันดุเดือด ด้วยอาวุธปืนสงครามนานาชนิด เป็นระลอก ๆ นานร่วม 2 ชั่วโมง โดยเจ้าหน้าที่สามารถวิสามัญฯ คนร้าย เสียชีวิตอีก 1 ศพ คือ นายมาหามะพัสดี จิยือแล อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 7 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่พรุนไปทั้งร่าง และเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดอาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 ได้อีก 1 กระบอก กระสุนปืนพร้อมด้วยเสื้อผ้าจำนวนหนึ่ง ส่วนกลุ่มกองกำลังติดอาวุธที่เหลืออีกประมาณ 2-3 คน ยังคงใช้ฐานปฏิบัติการณ์ย่อยเป็นที่กำบัง และใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง จนเสียงดังสนั่นป่าในขณะนี้.

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ตร.วิทยาการขอภาพนักข่าวเอาผิดคนเสื้อแดง

ตร.วิทยาการขอภาพนักข่าวเอาผิดคนเสื้อแดง



คมชัดลึก :ผู้ว่าฯ ขอนแก่นนำทหาร ตำรวจวิทยาการ เข้าเก็บหลักฐานที่ศาลากลาง พร้อมประสานขอข้อมูลภาพจากนักข่าวนำมาเป็นพยานหลักฐานมัดเสื้อแดงเผาศาลากลาง เตรียมพร้อมกำลังพลหลังมีข่าวแดงเตรียมป่วนหลายจุด






เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 20 พ.ค.53 นายปราโมทย์ สัจจรักษ์ ผู้ว่าราชการ จ.ขอนแก่น นำเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร์ จ.ขอนแก่น จำนวน 20 นาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าตำรวจจาก สภ.เมืองขอนแก่น และตำรวจวิทยาการที่ 23 เข้าตรวจสอบความเสียหายของศาลากลาง จ.ขอนแก่น ทั้งหลังเก่าและหลังใหม่หลังจากถูกลุ่มคนเสื้อแดงบุกฝ่าด่านเจ้าหน้าที่เข้าไปจุดไฟเผาจนเกือบวอดทั้งหลัง
 นายปราโมทย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้น  ยังไม่สามารถที่จะสรุปความเสียหายได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกำลังเก็บข้อมูลทางคดี เพื่อนำไปเป็นหลักฐานรายงานให้ส่วนกลางทราบก่อนที่จะมีการดำเนินคดีต่างๆ กับกลุ่มคนเสื้อแดงที่บุกเผาศาลากลาง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสอบสวนหาข้อมูลทั้งหมด
 ส่วนในเรื่องของการก่อเหตุนั้นขณะนี้ได้รายงานการกระทำและความเสียหายเบื้องต้นให้กับ ศอฉ.ได้ทราบแล้วถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (19 พ.ค.) และทางส่วนกลางก็ได้มอบหมายให้พื้นที่ดำเนินการสอบสวนเบื้องต้น ส่วนในเรื่องของพยานหลักฐานในการก่อเหตุนั้น ทางจังหวัดและเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร ก็จะประสานขอภาพกับทางสื่อมวลชนที่มาทำข่าว เพื่อนำมาประกอบเป็นพยานหลักฐานในการก่อเหตุของกลุ่มคนเสื้อแดงที่บุกเผาศาลากลาง ซึ่งทุกขั้นตอนก็ต้องรอทางส่วนกลางส่งลงมาถึงจะดำเนินการได้ เนื่องจากขณะนี้พื้นที่ จ.ขอนแก่น ยังอยู่ในพื้นที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งทางจังหวัดยังไม่สามารถตัดสินใจดำเนินการตามลำพังได้
นายปราโมทย์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของความเสียหายในพื้นที่ต่างๆ ใน จ.ขอนแก่น ที่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงบุกเผาและทำลายทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นที่สถานีวิทยุโทรทัศน์ NBT ขอนแก่น และธนาคารกรุงเทพฯในเขตเมืองขอนแก่นนั้น ขณะนี้ก็ประสานไปยังผู้อำนวยการสถานีและผู้จัดการธนาคารให้ทราบแล้วว่า ให้เก็บข้อมูลหลักฐานเอาไว้ เพื่อจะนำมาประกอบเป็นพยานหลักฐานในการก่อเหตุของกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป
ส่วนในเรื่องของความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ขณะนี้มีรายงานแจ้งว่า จะมีการเคลื่อนไหวไปปิดสถานที่ต่างๆ หลายแห่ง ซึ่งก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปดูแลความปลอดภัยแล้ว พร้อมกับเตรียมความพร้อมเอาไว้ทุกด้านหากมีการก่อเหตุจลาจลบุกเผาสถานที่ต่างๆ เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารก็จะเข้าดำเนินการทันที








ข่าวที่เกี่ยวข้องสั่งห้ามเข้า"อาคารมาลีนนท์"อันตราย ศอฉ.ประกาศเคอร์ฟิวต่ออีก3วันเริ่มวันนี้ถึงเสาร์เวลาตั้งแต่3ทุ่มถึงตี5 "ก่อแก้ว พิกุลทอง"เตรียมมอบตัวดีเอสไอ พบศพพยาบาล-จนท.มูลนิธิฯ6ศพในวัดปทุมฯ สหรัฐฯประณามผู้ประท้วงเผากรุงเทพ

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เสื้อแดงขอนแก่นยันแห่ศพคนตายรอบเมือง

เสื้อแดงขอนแก่นยันแห่ศพคนตายรอบเมือง



คมชัดลึก :เสื้อแดงขอนแก่นยันแห่ศพคนตายรอบเมือง ด้านแดงอุบลฯเข้าเยี่ยมแนวร่วมหลังถูกยิงเจ็บ 8 รายจากเหตุปะทะจนท. ขณะที่ผบช.5ระบุ พร้อมรวบ2 แกนนำแดง "เพชรวรรต"-"ดีเจอ้อม"ทันทีหากเข้ามาในพื้นที่ ขณะที่แม่ทัพภาค3ย้ำสองโจกแดงเหนือยังไม่กลับถิ่น






(20พ.ค.) เวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเสื้อแดงกว่า 100 คน เตรียมแห่ศพนายทรงศักดิ์ ศรีหนองบัว อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 12 หมู่ 8 บ้านหนองตูม ต.หนองตูม อ.เมือง ขอนแก่น ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะกันที่บ้านพักของนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ อดีตรมช.คมนาคม ซึ่งมีบ้านพักอยู่ริมบึงแก่นนครเขตเทศบาลนครขอนแก่นและทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และ บาดเจ็บกว่า 10 คน โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา
 ในขณะที่นางบุญเรือง ศรีหนองบัว อายุ 59 ปี แม่ของผู้ตาย กล่าวว่า  นายทรงศักดิ์ เป็นลูกชายคนโตและเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว ก่อนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ผู้ตายได้มาทำงานที่ร้านวิเชียรเซ็นเตอร์ตามปกติ และพอเลิกงานประมาณ 16.30 น.ได้ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาทางริมบึงแก่นนคร และมาพบกับกลุ่มผู้ชุมนุมกำลังล้อมบ้านนายประจักษ์อยู่ จึงได้เข้าร่วมชุมนุมด้วยแต่จากนั้นก็ถูกยิงจนเสียชีวิต
 "เสียใจมาก ไม่รู้ว่าลูกมาเข้าร่วมชุมนุมด้วย ก่อนหน้านี้เคยเห็นลูกชายบอกมาร่วมชุมนุมได้ครั้งสองครั้งแต่ไม่คิดว่าจะมีเหตุรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตแบบนี้ และอยากจะเอาศพลูกกลับบ้านไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี  แต่แกนนำบอกขอเอาไว้แห่เพื่อประจานความโหดเหี้ยมครั้งนี้ก่อน"นางบุญเรือง กล่าว
 รายงานว่าแจ้งว่า กลุ่มเสื้อแดงอุบลฯ นัดรวมพลในเวลา 12.30 น.วันนี้ เพื่อเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจกลุ่ม นปช.ที่ได้รับบาดเจ็บขณะบุกเผาศาลากลางจังหวัด โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 คน ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ โดยในจำนวนนี้ 5 รายถูกที่ยิงที่ขา อีก 1 รายถูกยิงที่ช่องท้อง ส่วนอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะนี้กลับบ้านได้แล้ว
 ด้าน นพ.มนัส กนกศิลป์ ผอ.โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบบาดแผลของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ใช่ร่องรอยการบาดเจ็บจากอาวุธสงคราม แต่น่าจะเป็นอาวุธปืนพก โดยขณะนี้ผู้บาดเจ็บทั้ง 6 คนที่นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมีอาการปลอดภัยแล้ว
 พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภาค 5 เปิดเผยว่า ส่วนกรณีของนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศืริกุล และนางกัญญาภัค มณีจักร หรือดีเจอ้อมแกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่51ซึ่งถูกออกหมายจับตามพรก.ฉุกเฉินที่กรุงเทพฯนั้น ขณะนี้ยังไม่มีข่าวว่าหนีกลับมาอยู่ในพื้นที่ แต่หากกลับมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ทันทีเนื่องจากเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับตามพรก.ฉุกเฉินของ ศอฉ.
 พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่3 กล่าวว่า รับทราบเรื่องแล้วว่าสองแกนนำดังกล่าวถูกออกหมายจับจากกรุงเทพฯ แต่จากการข่าวขณะนี้ยังไม่พบว่ามีแกนนำหลักของเชียงใหม่ที่ถูกออกหมายจับทั้งหมดเดินทางเข้ามาในพื้นที่
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแกนนำแดงทั้งกลุ่มนปช.แดง และกลุ่มรักเชียงใหม่51 หลังจากที่แกนนำนปช.แดงที่กรุงเทพฯเข้ามอบตัวในช่วงบ่ายวานนี้(19 พ.ค.) ทางแกนนำแดงเชียงใหม่ก็ไม่ได้ออกมาปรากฏตัวบนเวทีปราศรัยหรือจุดที่แดงมารวมตัวป่วนเมืองตามจุดต่าง ๆแต่อย่างใด








ข่าวที่เกี่ยวข้องประกาศเคอร์ฟิวเพิ่ม3วัน-ห้ามออกบ้าน3ทุ่มถึงตี5น่านเผาพริก-เผาเกลือแช่งครม.-ผู้นำเหล่าทัพ แดงเผาเมืองธปท.สั่งปิดแบงก์ตลาดหุ้นรถไฟฟ้าหยุดสทท.หั่นเป้าทัวร์นอกเหลือ13ล้านคนห่วง "สวนสนุก-สปา" กระทบก่อน-ตจว.โดนหางเลขศอฉ.แจงแดงแรงติดอาวุธไม่ปราบหวั่นคนตายเยอะ

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

วรรณรัตน์ยันแก๊ส-น้ำมันมีเพียงพอต่อความต้องการ

วรรณรัตน์ยันแก๊ส-น้ำมันมีเพียงพอต่อความต้องการ

รมว.พลังงานย้ำ แก๊สเอ็นจีวี-แอลพีจี-น้ำมันและแก๊สหุงต้ม  ขณะนี้มีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน รอให้ปลอดภัยเมื่อไรจะส่งรถเข้าเติมน้ำมันและแก๊สในพื้นที่จุดเสี่ยงทันที..เมื่อวันที่ 20 พ.ค. นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยกับไทยรัฐออนไลน์ว่า กระทรวงพลังงานได้ดูแลรักษาความปลอดภัยด้านพลังงานทุกประเภทจากแหล่งต้นทาง ตั้งแต่โรงกลั่นน้ำมัน โรงแยกแก๊ส คลังน้ำมัน คลังแก๊ส ระบบท่อมายังปั๊มน้ำมันที่ให้บริการ ซึ่งขณะนี้สถานีบริการน้ำมันในเขตกรุงเทพฯ กระทรวงพลังงานได้สั่งการให้ปิดทั้งหมด  71 ปั๊ม จาก 878 ปั๊ม  สถานีบริการแก๊สแอลพีจี ปิดบริการ 27 ปั๊ม จาก 198 ปั๊ม และปั๊มแก๊สเอ็นจีวี ปิดบริการ 4 ปั๊ม จาก 111 ปั๊ม ซึี่งปั๊มที่กระทรวงพลังงานประกาศปิดนั้น อยู่ในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน 13 เขต กระทรวงพลังงานจะพิจารณาหากสถานการณ์คลี่คลายทำให้มั่นใจในการขนส่งแก๊สหรือน้ำมันก็จะอนุญาตให้รถขนน้ำมันและแก๊สเข้าไปเติมตามปั้มได้ ส่วนการเปิดสถานีบริการน้ำมันและแก๊ส นั้นจะต้องมีการประเมินสถานการณ์กันชั่วโมงต่อชั่วโมงปั๊มแก๊สและปั๊มน้ำมันในเขตรอบนอกยังมีรถแก๊ส รถน้ำมันมาเติมให้ปกติ ดังนั้นขอยืนยันว่าไม่มีการขาดแคลนน้ำมันและแก๊สแอลพีจี-เอ็นจีวีอย่างแน่นอน สำหรับปั๊มอื่นที่ปิดนอกเหนือจากที่กระทรวงพลังงานสั่งก็เพราะเจ้าของอาจจะหวั่นเกรงอันตรายเพราะอยู่ในพื้นที่ล่อแหลมหรือบางปั๊มอาจจะปิดเพราะน้ำมันหรือแก๊สหมด ซึ่งขณะนี้กระทรวงยังไม่มั่นใจในความปลอดภัยจึงไม่อนุญาตให้รถน้ำมันและแก๊สเข้าเติมได้ รมว.พลังงานกล่าวส่วนปัญหาแก๊สหุงต้มที่ใช้ในครัวเรือน ขณะนี้ยังไม่มีปัญหาการขาดแคลนแก๊ส รวมถึง กทม.ชั้นใน ที่เป็นจุดอันตรายด้วย เพราะตัวแทนจำหน่ายยังมีแก๊สพอที่จะขาย แต่ยังไม่สามรถบอกได้ว่าจะมีพอถึงเมื่อใด.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

Blog Archive