Thursday, November 29, 2012

แกะรอยผ่านแอพ รวบหัวขโมยไอโฟน4ทันควัน

แกะรอยผ่านแอพ รวบหัวขโมยไอโฟน4ทันควัน
หัวขโมยเพิ่งออกจากคุกไม่สำนึก ก่อเหตุใช้มีดคัดเตอร์จี้ชิงไอโฟน 4 จากพนักงานขายห้างดัง  สุดท้ายโดนรวบทันควัน  โดย ตร.เผยใช้วิธีแกะรอยจากสัญญาณโทรศัพท์ผ่านแอพพลิคชั่น ก่อนดักจับได้อย่างง่ายดาย...  เมื่อเวลาประมาณ 00.45 วันที่ 30 พ.ย. 55 พ.ต.ท.คงศักดิ์ ปานน้อย สว.สส.สน.ภาษีเจริญ แถลงการจับกุมโจรชิงทรัพย์สะพานลอย โดยเมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. วันที่ 29พ.ย.55 ที่ผ่านมา ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ภาษีเจริญ และ สน.หลักสอง  ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาประกอบด้วย นายสันทัดชูกลิ่น อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 295 ซอยเพชรเกษม 65แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. และนายกานต์ เสนามงคลอายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/30 ซอยเพชรเกษม 81/6 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อแอปเปิ้ล รุ่นไอโฟน 4 จำนวน 1เครื่อง กระเป๋าสะพายแบบสุภาพสตรี ยี่ห้อ เทวินทร์ สีน้ำตาล จำนวน1 ใบ  ภายในกระเป๋าสะพาย มีกระเป๋าสตางค์ พร้อมเงินสด จำนวน 40 บาท  บัตรประจำตัวประชาชน  บัตร เอ ที เอ็ม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำนวน 1 ใบ ของใช้ส่วนตัวอื่นๆ เช่น เครื่องสำอางค์ ของผู้เสียหาย ขณะเดียวกัน พบอาวุธคนร้ายเป็นมีดคัตเตอร์ที่ใช้ก่อเหตุ จำนวน 1 ด้าม  รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีแดงคาดขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม ระบุ มขล 677 กทม. ที่ใช้ก่อเหตุ  โดยจับกุมมาจากร้านขายโทรศัพท์มือถือ ห้างบิ๊กซี สาขาเพชรเกษม แขวงบางแค เขตบางแคกทม. ท้องที่ สน.หลักสองสืบ  พ.ต.ท.คงศักดิ์ เผยว่า ก่อนแถลงข่าว เพียง 3 ชม. คนร้ายทั้ง 2 คน  ใช้รถ จยย.คันดังกล่าวเป็นยานพาหนะ  โดยนายสันทัด ทำหน้าที่ขับ ส่วนนายกานต์เป็นคนซ้อน ร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์ น.ส.อารียา เกตุกร อายุ 28 ปี และนายศักดาฉ่ำเสนาะ อายุ 35 ปี เจ้าทุกข์ ซึ่งทำอาชีพพนักงานขาย ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านบางแค   เหตุเกิดขณะเดินทางกลับจากที่ทำงานมาถึงบริเวณเชิงสะพานลอย ปากซอยเอช เค  ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางบอน เขตบางบอน กทม.  คนร้ายทั้ง 2 ได้ขับขี่รถ จยย. มาจอดดักรอ แล้วใช้มีดคัดเตอร์ จี้บังคับเอาโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อแอปเปิ้ล รุ่นไอโฟน 4 กับกระเป๋าสะพายของ น.ส.อาริยาไป  จากนั้น ขี่รถ จยย.หลบหนีออกไป ต่อมาผู้เสียหายได้ติดต่อไปยังร้านจำหน่ายโทรศัพท์เพื่อขอทราบว่า โทรศัพท์ที่ถูกชิงไปอยู่ที่ใด เนื่องจากได้ลงแอพพลิเคชั่นสำหรับติดตามโทรศัพท์มือถือหายไว้ด้วย  พร้อมแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนเทียน และออกวิทยุสกัดจับไปยัง สน.ข้างเคียง ประกอบด้วย สน.ภาษีเจริญ และสน.หลักสอง เพื่อร่วมกันติดตามหาตัวคนร้าย จากนั้นอีกไม่นาน ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.ภาษีเจริญ ได้ตรวจสอบพบสัญญาณโทรศัพท์ของผู้เสียหาย พบอยู่ที่ห้างบิ๊กซีสาขาเพชรเกษม แขวงและเขตบางแค กทม.จึงไปซุ่มจับได้ที่ร้านดังกล่าวจากการสอบสวนผู้ต้องหา ทั้ง 2ให้การรับสารภาพว่าเคยทำลักษณะนี้มา 2 ครั้งแล้ว โดยทั้งคู่เพิ่งพ้นโทษติดคุกข้อหาเสพยาเสพติดในเขต สน.ภาษีเจริญ แต่ยังมาก่อเหตุอีก   นอกจากนั้น  เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ก่อเหตุให้พนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันก่อเหตุร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนต่อไป .

SME มีแวว : YUPA อาร์ตใส่ได้ แอคเซสเซอรี่สไตล์สาวมั่น...

SME มีแวว : YUPA อาร์ตใส่ได้ แอคเซสเซอรี่สไตล์สาวมั่น...
เครื่องประดับ แม้จะไม่ได้สลักสำคัญเทียบเท่าอาหาร ทว่ายอมรับเถอะว่า ในวิถีชีวิตเราทุกคนล้วนต้องการ เครื่องประดับ กันทั้งนั้น...ส่วนใครจะโดนใจแบบไหน มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่หากต้องการเครื่องประดับแนวอาร์ตที่สามารถสวมใส่ได้จริงแล้วละก็ SME มีแวว วันนี้ภูมิใจเสนอ YUPA แอคเซสเซอรี่สไตล์สาวมั่น!! แรงบันดาลใจในการสร้างธุรกิจคุณยุภา พรมวอน เจ้าของร้าน เครื่องประดับ YUPA  เผยกับไทยรัฐ ออนไลน์ ว่า ย้อนไปเมื่อ 10  ปีที่แล้ว เธอมีอาชีพเป็นเซลอยู่ที่บริษัททำเกี่ยวกับจิวเวลรี่แห่งหนึ่งนานนับ 10 ปี โดย 5 ปีแรกเป็นเซลขายภายในประเทศ ต่อมา 5 ปีหลังจากนั้นจึงขยับไปเป็นเซลฝ่ายขายต่างประเทศ นั่นหมายความว่า ระหว่างนั้น เธอต้องเดินทางไปต่างแดนบ่อยครั้ง และผลพวงจากการเดินทางบ่อยนี้เองที่เป็นผลพลอยได้ทำให้ คุณยุภา มีโอกาสไปเห็นศิลปะ วัฒนธรรมที่แตกต่าง อีกทั้งพื้นฐานส่วนตัวเธอเองก็ชื่นชอบเรื่องขีดๆ เขียนๆ อยู่แล้ว ในที่สุดเธอตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เพื่อจะมาทำธุรกิจด้านอัญมณีเครื่องประดับอย่างจริงๆ จังๆ จึงเป็นที่มาของร้าน YUPA แอคเซสเซอรี่สไตล์สาวมั่นรู้ลึก รู้จริง เรื่อง อัญมณีหลังจากลาออกจากงานมาเรียบร้อยแล้ว คุณยุภาก็ได้ไปเข้าคอร์สเรียนเรื่องการออกแบบดีไซน์อัญมณีอย่างจริงจัง ที่สถาบันอัญมณีศาสตร์ (AIGS) ซึ่งใช้เวลาเรียนนานถึง 6 เดือนเต็ม โดยเธอให้เหตุผลว่า การที่เราอยากจะรู้อะไรสักอย่างนั้น ก็ควรที่จะรู้ลึก รู้จริงไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม...กระทั่งเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว หลังจากคุณยุภา เรียนจบคอร์สอัญมณีเป็นที่เรียบร้อยจึงตัดสินใจมาเปิดหน้าร้านอย่างเป็นทางการขึ้นที่ จิวเวลรี่ เทรด เซ็นเตอร์  ย่านสีลม คอนเซปต์  คือ แปลก ครั้งแรกที่เปิดร้าน สินค้าลอตแรกมีคอนเซปต์สั้นๆ คือ แปลก เพราะตอนนั้นคิดว่าถ้าเราทำเหมือนคนอื่น งานของเราก็จะเหมือนคนอื่น แล้วเครื่องประดับชิ้นแรกที่ทำออกมา คือ แหวน ในชุดที่ชื่อว่า Lovely Ugly ดูน่ารักน่าเกลียด เรามองว่านี่แหละสะท้อนความเป็นเราออกมามากที่สุดแล้ว (หัวเราะ)ช่วงนั้นงานออกแบบแหวนมีออกมาเยอะมาก และผลตอบรับก็ดีเช่นเดียวกัน แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่นนะ เพราะความที่เราเรียนมาทางด้านดีไซน์อัญมณี แต่ไม่ได้เรียนมาทางการบริหารจัดการ ดังนั้นการตั้งราคาขาย เลยกลายเป็นว่าดันไปตั้งราคาขายปลีกเท่าๆ กับราคาส่ง ฉะนั้น กำไรที่ได้จึงเหลือน้อยมาก จนปีที่ 2 มันไม่ได้แล้วนะ ในที่สุดก็เลยต้องกลับมาทบทวนเรื่องการขายใหม่เพื่อให้ร้านสามารถอยู่ได้ต่อไปในอนาคตเทรนด์ตลาดตอบโจทย์ลูกค้า เทรนด์การตลาดเครื่องประดับ ร้านเราจะอิงที่ความต้องการลูกค้าเป็นหลัก เพื่อตอบโจทย์ได้ตรงจุดมากที่สุด เช่น ลูกค้าต้องการเครื่องประดับออกแนวอลังการอยู่ ขณะเดียวกันราคาเขาต้องการให้อยู่ที่เลทเดิม คือราคาเดียวกันกับเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หมายความว่าเราจะปรับราคาขึ้นตามภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่ได้ ดังนั้นเราจึงเกิดไอเดียว่าต้องทำอย่างไรเพื่อที่จะรักษาตลาดไว้ได้ จึงเป็นที่มาของงานแอพพลายวัสดุเครื่องประดับด้วยการปรับลด เพิ่มนั่นนี่ ขณะเดียวกันงานก็ต้องแสดงความเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด กระทั่งคิดว่ามันลงตัวทั้งต้นทุน ดีไซน์ ตลาดค่ะคุณยุภา กล่าวกับไทยรัฐออนไลน์ ด้วยว่า ปัจจุบัน ตลาดเริ่มรับยอมรับวัสดุที่นำมาทำเครื่องประดับที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้เรานำบรอนซ์เข้ามาดีไซน์เหนือจากซิลเวอร์ได้ และลูกค้าส่วนใหญ่จะเข้าใจว่างานที่ร้านบางส่วนอาจไม่ได้ใช้เงิน แต่ใช้บรอนซ์เกรดนำเข้าจากอิตาลีแทน ซึ่งคุณสมบัติของบรอนซ์อิตาลี เรากล้ารับรองเลยว่าใส่แล้วไม่มีอาการแพ้แน่นอน พร้อมกันนี้ หากลูกค้าต้องการงานซิลเวอร์มากกว่า ทางร้านก็สามารถทำให้ได้เช่นกันกล้าที่จะแตกต่าง !ถามว่า YUPA แตกต่างจากเครื่องประดับทั่วไปอย่างไร สาวมั่นมาดเก๋ เจ้าของร้านตอบทันทีว่า จุดเด่น อยู่ที่ความคิด คือกล้าคิดที่จะแตกต่าง ทั้งดีไซน์ วัสดุ และเรากล้าที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ เช่น การเลือกใช้วัสดุ แมททีเรียลต่างๆ เพื่อจะนำมาสร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นสิ่งหนึ่ง ภายใต้คอนเซปต์เดิม คือ ทั้งหมดทั้งมวลล้วนสะท้อนออกมาจากความเป็นเราค่ะอย่างบางรุ่นที่ออกแบบมา ปรากฏว่า มีพ่อค้าเครื่องประดับชาวสิงคโปร์เมื่อมาเห็นแล้วชอบจนมาขอซื้อลิขสิทธิ์ไปเลยก็มี ซึ่งเราก็ยินดีขายนะ อย่างน้อยงานดีไซน์ของเรามันก็ขยายไปสู่สายตาชาวโลกมากขึ้น เพราะลำพังตัวเราเองคงจะพาผลงานไปได้ไม่ไกลนัก ที่สำคัญไอเดียดีๆ ไม่มีวันหมดอยู่แล้ว เราสามารถคิดแบบใหม่ๆ ออกมาได้เรื่อยๆ อยู่แล้วค่ะ คุณยุภา กล่าวทิ้งท้าย สำหรับกลุ่มเป้าหมายร้าน YUPA จะมีทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย ที่มีรสนิยมวิไล บุคลิกมั่นอกมั่นใจไม่ว่ารายไหน หากมาเห็นเป็นโดนแน่ๆ เพราะเครื่องประดับร้านนี้ เกินคำว่า ประดับ ไปมาก จนความหมายน่าจะเป็น แฟชั่น อาร์ต จิวเวลรี่ หรือ ผลงานศิลปะที่คุณสามารถสวมใส่ได้ล่ะมากกว่าสนนราคาเบาๆ  เริ่มตั้งแต่ 500-28,000  บาท หากว่าใครสนใจอยากได้ อยากโดน (ใจ) ล่ะก็เชิญสัมผัสของจริง ได้ด้วยตาตัวเองที่  ร้าน YUPA จิวเวลรี่ เทรด เซ็นเตอร์ ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร หรือคลิกเข้าไปทำความรู้จักกันก่อนที่ http://www.facebook.com/TheWearableArt?fref=ts หรือ http://www.yupadesign.com/ โทร. 08-9044-6588   

นาซา หวั่นคนฆ่าตัวตายหนีโลกแตก ปลอบประโลมเป็นเพียงเรื่องจินตนาการ

นาซา หวั่นคนฆ่าตัวตายหนีโลกแตก ปลอบประโลมเป็นเพียงเรื่องจินตนาการ
นักวิทยาศาสตร์แห่งนาซา หวั่นเยาชนฆ่าตัวตายหนีวันโลกแตก ตามความเชื่อที่มีคนตีความปฏิทินมายาผิด ใช้สังคมออนไลน์ปลอบประโลมเด็ก ชี้เป็นเพียงเรื่องจินตนาการที่สร้างกันเอง...สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อ 30 พ.ย. ว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์ จากองค์การการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) ปลอบประโลมความหวาดกลัวถึงความเชื่อวันโลกาวินาศ ในช่วงสิ้นปี 2012 พร้อมทั้งเตือนให้รับมือกับข่าวลือด้านมืด เนื่องจากเกรงหว่าอาจมีเด็กและเยาวชน ที่หวาดผวาเกี่ยวกับการสูญสิ้นของโลก จนอาจก่อเหตุฆ่าตัวตายได้ทั้งนี้ ความหวาดผวาดังกล่าว เกิดจากการตีความหมายปฏิทินชนเผ่ามายาแบบผิดๆ ของชาติตะวันตก ที่เชื่อกันเองว่าวันที่ 21 ธ.ค. นี้ เป็น “วันสิ้นโลก” เนื่องจากเป็นวันสุดบ้าน ที่ปรากฏในปฏิทินของชน้ผ่ามายา แต่ในความเป็นจริงถือเป็นการสิ้นสุดบัคตุนที่ 13 ซึ่งเป็นการนับอายุเวลาตามปฏิทินของชนเผ่ามายา แหล่งอารยธรรมเก่าแก่ที่ยังหลงเหลือหลักฐานอยู่ในเม็กซิโก โดย 1 บัคตุนเทียบเท่ากับเวลา 394 ปี ทำให้วันครบรอบบัคตุนที่ 13 เท่ากับเวลา 5,126 ปีตามการนับอายุเวลาสากลปัจจุบันนอกจากนี้ ความเชื่อยังมีอีกว่า อุกกาบาตอาจพุ่งชนโลกในวันดังกล่าว และทำให้ทุกสรรพสิ่งบนโลกถึงคราวดับสูญ ซึ่งนาซาอธิบายว่า ในปัจจุบันทีมนักดาราศาสตร์มีความเชี่ยวชาญและแม่นยำ ในการตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนเข้าใกล้โลก และชี้ว่าไม่ต้องเป็นกังวลกับกรณีดังกล่าว โดย เดวิด มอร์ริสัน นักดาราชีววิทยา แห่งศูนย์วิจัยอาเมส ของนาซา กล่าวเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ผ่านกูเกิลแฮงค์เอาท์ ว่าความเชื่อโลกแตกเป็นเพียงจินตนาการที่สร้างขึ้นมาเท่านั้นเอง.

Blog Archive