Thursday, December 20, 2012

ชัชชาติเล็งพัฒนาอุตฯการบินไทยสู่ฮับในภูมิภาค

ชัชชาติเล็งพัฒนาอุตฯการบินไทยสู่ฮับในภูมิภาค
คมนาคม ตั้งคณะกรรมการ 3 ชุด วางแผนแม่บทพัฒนานิคมอุตฯ การบิน คาดแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน หวังชิงส่วนแบ่งตลาดมูลค่ากว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ชูจุดเด่นด้านทำเล แรงงานมีฝีมือ สั่งการบินพลเรือนหาพื้นที่ทำนิคมร่วมกับ กนอ.นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย ภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมการบิน ว่า ได้ตั้งคณะกรรมการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินเพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาครวม 3 ชุด ได้แก่ 1. คณะกรรมการศึกษาวางแผนแม่บทในการพัฒนาอุตสาหกรรมการบิน มีบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รับผิดชอบ โดยว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญระดับโลกเป็นผู้วางแผน 2. คณะกรรมการวางแผนการพัฒนาบุคคลด้านการบิน สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) เป็นผู้รับผิดชอบ และ 3. คณะกรรมการศึกษาแนวทางการสนับสนุนให้เอกชนไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตเครื่องบิน เครื่องยนต์ และชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องบิน เข้ามาลงทุนตั้งโรงงานในประเทศไทย โดยให้คณะกรรมการทั้ง 3 ชุด เสนอรายละเอียดแผนงานภายใน 2 เดือน หรือเดือน -ก.พ.2556 สำหรับมูลค่าตลาดอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกคิดเป็นเงินกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 6 ล้านล้านบาท และมีอัตราการเติบโตที่ประมาณ 3.9% ขณะที่อุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคเอเชียมีอัตราการเติบโตที่ 5.7 % แต่ไทยมีส่วนแบ่งจากอุตสาหกรรมดังกล่าวปีละ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ทำให้เห็นโอกาสที่จะเข้าไปมีส่วนแบ่งตลาด โดยชูจุดเด่นเรื่องของทำเลที่ตั้งของประเทศ แรงงานมีฝีมือ และต้นทุนรวมต่ำ โดยเบื้องต้นจะพัฒนาเป็นศูนย์ซ่อมขนาดใหญ่ และศูนย์ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องบินส่วนการพัฒนาบุคลากรด้านการบินนั้น พบว่า ตลาดมีความต้องการบุคลากรด้านนี้อีก 2 แสนคน ใน 10 ปีข้างหน้า หากไทยเตรียมความพร้อมการฝึกบุคลากรจะดึงรายได้เข้าประเทศได้ เช่น กรณีฝึกนักบิน 1 คน ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาท หากไทยฝึกนักบิน 1 แสนคน ก็จะมีรายได้ประมาณ 2 แสนล้านบาท ขณะที่การฝึกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และพนักงานควบคุมการจราจรทางอากาศไทยสามารถให้การฝึกอบรมได้ เบื้องต้นทราบว่า ประเทศคู่แข่งที่มีศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรด้านการบิน คือ ประเทศอินเดีย และจีน แต่อินเดียมีปัญหาเรื่องความล่าช้าของการดำเนินงานที่ยุ่งยาก ขณะที่จีนมีปัญหาเรื่องการฝึกบิน เนื่องจากข้อจำกัดด้านความมั่นคงของการควบคุมการจราจรทางอากาศซึ่งทหารเป็นผู้ดูแล ดังนั้นไทยจึงมีโอกาสที่จะพัฒนาเรื่องการฝึกอบรมได้ดีทั้งนี้ ได้ให้สถาบันการบินพลเรือน ไปพิจารณาการจัดหาพื้นที่เพื่อทำนิคมอุตสาหกรรมการบิน โดยมีทั้งท่าอากาศยานนครราชสีมา อู่ตะเภา ตาคลี และกำแพงแสน โดยจะต้องศึกษารายละเอียดร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และเปิดรับฟังเอกชนที่เกี่ยวข้องในการผลิตชิ้นส่วนเครื่องบิน.

ระทึก!!แอร์เบอลินลงฉุกเฉินที่ภูเก็ตคาดเครื่องขัดข้อง

ระทึก!!แอร์เบอลินลงฉุกเฉินที่ภูเก็ตคาดเครื่องขัดข้อง
เกิดเหตุระทึก เมื่อเครื่องบินแอร์บัส เอ330-300 ของสายการบินแอร์เบอลิน ที่กำลังทะยานจากภูเก็ตไปอาบูดาบี เกิดเครื่องขัดข้องกลางอากาศ ขอลงจอดฉุกเฉินท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ทำให้สนามบินปิดถึง 03.00 น.เพราะเครื่องขวางรันเวย์...เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 20 ธ.ค.2555 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารสายการบินแอร์เบอลิน ประเทศเทศเยอรมนี ขออนุญาตลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานนานาชาติ จ.ภูเก็ต หลังจากที่นำเครื่องขึ้นบินได้ไม่นาน โดยรายงานเบื้องต้นระบุว่านักบินได้รับสัญญาณเตือนว่าเครื่องยนต์เกิดปัญหา จนต้องวกกลับลงจอดที่ท่าอากาศยานฯ โดยขณะลงจอดยางล้อของเครื่องเกิดระเบิดขึ้น แต่เครื่องไม่ไถลออกนอกรันเวย์ และไม่เสียการทรงตัวแต่อย่างใด เพียงแต่ยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกได้เท่านั้นอย่างไรก็ตาม จากการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ท่าอากาศยานนานาชาติ จ.ภูเก็ต ได้แจ้งว่า เที่ยวบินดังกล่าวคือเที่ยวบินของสายการบิน แอร์เบอลิน แบบ แอร์บัส เอ330-200 เที่ยวบินที่ BER7425 บินระหว่างภูเก็ต-อาบูดาบี มีผู้โดยสารตามที่รับแจ้งข้อมูลไว้ 249 คน ซึ่งเกิดอุบัติเหตุทางเครื่องยนต์จนต้องขอลงจอดฉุกเฉิน ซึ่งยืนยันว่าไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บใดๆจากการลงจอดฉุกเฉินในครั้งนี้ ขณะที่การเคลื่อนย้ายผู้โดยสารทั้งหมดนั้น หลังจากที่นำผู้โดยสารทั้งหมดกลับเข้าสู่อาคารที่พักผู้โดยสารแล้ว สายการบินจะเป็นผู้รับผิดชอบในการหาที่พักในคืนนี้เป็นการชั่วคราวก่อน ด้านรันเวย์ทางขึ้นลงที่ต้องใช้งานของท่าอากาศยานนั้น ล่าสุด ได้รับการยืนยันว่า อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายเครื่องบินลำดังกล่าวให้ออกพ้นนอกเส้นทาง ซึ่งขณะนี้ท่าอากาศยานยังปิดเป็นการชั่วคราว ไม่อนุญาตให้มีการขึ้น-ลง เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดรันเวย์ใช้งานได้ตามปกติอีกครั้งเวลาประมาณ 03.30 น. ส่วนเครื่องบินที่รอลงจอดในรอบดึกเหลือเพียงเที่ยวเดียวคือเที่ยวบินจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่จะเดินทางมาถึงราว 02.00 น.ซึ่งต้องเลื่อนเวลาการลงจอดไปอีก ขณะที่เที่ยวบินขาออกที่ยังคงเหลือนั้น ต้องเลื่อนเวลาออกไปทั้งสิ้น 8 เที่ยวบินด้วยเช่นเดียวกัน รวมถึงการบินไทยเที่ยวบิน ทีจี222 และ 225 เส้นทาง กรุงเทพฯ-ภูเก็ต-กรุงเทพฯ ก็ต้องเลื่อนออกไปเช่นเดียวกันด้านนายสมชัย สวัสดีผล รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย [ทอท] กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า เที่ยวบินดังกล่าวเกิดปัญหา หลังนำเครื่องขึ้นแล้วปรากฏว่านักบินได้รับสัญญาณเตือน จึงขอนำเครื่องลงฉุกเฉิน ซึ่งขณะลงจอดปรากฏว่าตัวเครื่องเกิดแรงกระแทก ทำให้ยางแตกคารันเวย์ ส่งผลให้สายการบินอื่นยังไม่สามารถขึ้น-ลงได้ ซึ่งเบื้องต้นต้องให้ย้ายไปลงสนามบินอื่น เช่น กระบี่ หาดใหญ่ สุวรรณภูมิ ขณะเดียวกันก็มีผู้โดยสารตกค้างที่สนามภูเก็ตประมาณ 1,000 คน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่เวลาประมาณ 20.30 น.รูปประกอบจากวิกิพีเดียhttp://es.wikipedia.org/wiki/Archivo:Air_Berlin_%28LTU%29_Airbus_A330-300_D-AERK_DUS.jpg

จีนจับสาวกลัทธิวันสิ้นโลกเกือบ 1,000 คน คิดโค่นล้มพรรคคอมมิวนิสต์

จีนจับสาวกลัทธิวันสิ้นโลกเกือบ 1,000 คน คิดโค่นล้มพรรคคอมมิวนิสต์
ตำรวจจีนจับกุมสาวกลัทธิ เห่ยหลงเจี้ยง ซึ่งเชื่อถือในคำทำนายวันสิ้นโลก 21/12/12 หรือวันศุกร์นี้ จำนวเกือบพันคน หลังปลุกระดมสาวก โค่นล้มพรรคคอมมิวนิสต์...สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ว่า ตำรวจจีนจับกุมสาวกลัทธิ เห่ยหลงเจี้ยง (Almighty God : พระผู้เป็นเจ้า) ลัทธิที่เชื่อในเรื่องวันสิ้นโลกเพื่อเติมอีกหลายร้อยคน หลังจากพวกเขาพยายามากระจายข่าวลือความเชื่อ ว่าโลกจะถึงจุดจบในวันที่ 21 ธ.ค. 2012 และปลุกระดมเหล่าสาวกให้โค่นล้มรัฐบาลคอมมิวนิสต์สื่อจีนรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมสาวกในลัทธิ ชั่วร้าย นี้เพิ่มเติมอีกราว 500 คน ซึ่งเมื่อรวมการจับกุมก่อนหน้านี้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา มีสาวกของลัทธินี้ถูกจับกุมเกือบ 1,000 คน แล้ว ขณะที่ลัทธิ เห่ยหลงเจี้ยง กล่าวหารัฐบาลว่า จับกุมสาวกไปแล้วมากกว่า 2,000 คน ตั้งแต่ปี 1995ลัทธิ เห่ยหลงเจี้ยง เป็นกลุ่มผู้นับถือศาสนาคริสต์ มีสมาชิกซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนรากหญ้าที่มีการศึกษาน้อยมากกว่า 1 ล้านคน ก่อตั้งมาราว 20 ปี ที่มณฑลเหอหนาน มีความเชื่อว่า วันที่ 21 ธ.ค. 2012 จะเป็นวันที่โลกถึงจุดจบ เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของปฏิทินของชนเผ่ามายาที่มีการคำนวนวันเวลามายาวนานหลายพันปี และสิ้นสุดในวันดังกล่าวพอดี พวกเขายังทำนายว่าในวันศุกร์นี้ โลกจะตกอยู่ในความมืดมิเป็นเวลา 3 วัน และปลุกระดมเหล่าสาวกให้โค่นล้มรัฐบาลคอมมิวนิสต์ในลัทธิยังมีคำสอนว่า วันสิ้นโลกจะนำไปสู่ยุคใหม่ พระเยซูจะจุติบนโลกอีกครั้งในรูปลักษณ์ของสตรีชาวจีน อายุราว 30 ปี ซึ่งใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อนและไม่เคยถูกถ่ายภาพได้ทั้งนี้ ความเชื่อเรื่องวันสิ้นโลกในวันศุกร์ที่ 21 ธ.ค. เริ่มกระจายไปทั่วประเทศจีน และทั่วโลก โดยผู้ที่เชื่อถือต่างเตรียมตัวรับมือด้วยวิธีการต่างๆ อย่างไรก็ดี องค์การนาซาของสหรัฐฯออกมายืนยันว่า ในวันดังกล่าว จะไม่มีแผ่นดินไหวรุนแรง พายุสุริยะ ดวงอาทิตย์ดับ น้ำท่วมโลก หรือภัยพิบัติร้ายแรงถึงขั้นทำให้โลกถึงจุดจบเกิดขึ้นแน่นอน

Blog Archive