แผ่นดินไหว 6.0 นอกฝั่งวานูอาตู ตื้น 10 กม. ยังไม่เตือนสึนามิ

แผ่นดินไหว 6.0 นอกฝั่งวานูอาตู ตื้น 10 กม. ยังไม่เตือนสึนามิ
แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งวานูอาตู 6.0 ตื้นแค่ 10 กม. ในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ แต่ยังไม่มีประกาศเตือนสึนามิ...สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 28 ก.พ. อ้างการเปิดเผยจากสำนีกธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) ว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหว วัดระดับความรุนแรงได้ 6.0 จุดศูนย์กลางอยู่ตื้นเพียงแต่ 10 กิโลเมตร นอกชายฝั่งกรุงพอร์ต วิลา เมืองหลวงของสาธารณรัฐวานูอาตู ในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ทั้งนี้ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 10.09 น. ตามเวลาประเทศไทย ห่างจากกรุงพอร์ต วิลา ไปทางตะวันตกราว 103 กิโลเมตร แต่เบื้องต้นยังไม่ได้รับแจ้งความเสียหาย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และไม่มีคำสั่งเตือนภัยสึนามิ.

สุหฤทแหวกแนว ทำป้ายหาเสียงถังขยะ

สุหฤทแหวกแนว ทำป้ายหาเสียงถังขยะ
นายสุหฤท สยามวาลา ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 17 แหวกแนว ทำป้ายหาเสียงถังขยะ พร้อมเรียกร้องกลุ่มพลังเงียบ 2 ล้านคน ออกมาใช้สิทธิในวันที่ 3 มี.ค. ... นายสุหฤท สยามวาลา ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 17 เปิดตัวป้ายหาเสียงถังขยะ ซึ่งนำถังขยะพลาสติกสีเขียว มาติดสติ๊กเกอร์หาเสียง และยังติดทับถังไม่ให้สามารถทิ้งขยะเข้าไปได้ด้วย โดยพิมพ์ข้อความระบุชัดเจนว่าเป็นป้ายหาเสียง ห้ามใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น โดยจุดแรกที่นายสุหฤทนำป้ายหาเสียงถังขยะไปวางไว้คือ หน้าตลาด อ.ต.ก. ใกล้ทางลงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินกำแพงเพชร โดยนายสุหฤท กล่าวว่า ป้ายหาเสียงถังขยะ ผลิตมาจำนวน 50 ใบ จะถูกตั้งวางไว้ 5 จุด ได้แก่ ที่ตลาด อ.ต.ก. สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินจตุจักร แยกเกษตร ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และ ม.ศิลปากร โดยสาเหตุที่ยังไม่เปิดให้ถังขยะใช้ได้ เพราะเกรงว่าจะผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่หลังจากพ้นการเลือกตั้งไปแล้ว จะกลับมาดูว่าป้ายหาเสียงถังขยะเหล่านี้ว่ายังวางไว้หรือไม่ พร้อมกันนี้ นายสุหฤท ยังกล่าวถึงคนกรุงเทพฯ ว่า ขอให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 3 มี.ค.นี้ อย่างพร้อมเพรียง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ไม่เคยออกมาใช้สิทธิ จำนวน 2 ล้านคน. 

วอนช่วยสาวเรียนเก่ง ประสบอุบัติเหตุอัมพฤกษ์-ไร้เงินรักษา

วอนช่วยสาวเรียนเก่ง ประสบอุบัติเหตุอัมพฤกษ์-ไร้เงินรักษา
วอนช่วยสาววัย 18 ปี เรียนเก่ง ความหวังครอบครัว แต่ประสบอุบัติเหตุรถจักรยายนต์ จนกลายเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก ชีวิตลำบากอยู่กับตาและยายและน้องชาย ม.2 ต้องหยุดเรียนเพื่อหาเงินช่วยพี่ ส่วนพ่อแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อ 10 ปีก่อนเช่นกันวันที่ 28 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับ แจ้งจาก นายปรมัตด์ วิมานสาร ผู้อำนวยการสถานีวิทยุชุมชน FM 102.75 เมกะเฮิรตซ์ ว่ามีเด็กสาวนอนป่วยเป็นอัมพฤกษ์ อาศัยอยู่กับตาและยายฐานะทางบ้านยากจนต้องการความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ เรื่องค่ารักษาพยาบาล อยู่ที่บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 3 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร จากการเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีนางสาวขวัญกมล ผูกพันธ์ อายุ 18 ปี นอนป่วยอยู่บนที่นอนร่างกายผอมโซ ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ แขนและขาด้านขวาอ่อนแรง กล้ามเนื้อลีบเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก ส่วนแขนข้างซ้ายพอขยับเคลื่อนไหวได้บ้าง แต่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ต้องมีคนช่วยพยุงตัวเวลาลุกนั่งหรือนอน ด้านข้างมีนางมาลี ผูกพันธ์ อายุ 62 ปีเป็นยายขวัญกมลกำลังดูแลป้อนข้าวให้ นางมาลี เปิดเผยว่า เมื่อปีเศษที่ผ่านมา น.ส.ขวัญกมล ขณะกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนนครไตรตรึงษ์ ต.ไตรตรึงษ์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ได้ประสบอุบัติเหตุขี่รถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะจนได้รับบาดเจ็บนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร เป็นเวลาหลายเดือน เนื่องจากศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรงจนในที่สุดก็กลายเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก ไม่มีเงินรักษาต่อจึงนำตัวกลับมาอยู่ที่บ้าน ส่วนพ่อและแม่ของน้องขวัญกมลก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุไปนานกว่า 10 ปีแล้ว ส่วนเงินที่สะสมไว้ได้ใช้จ่ายเป็นค่ารักษาก็เริ่มหมดลงไป ของเก่าที่สะสมไว้ก็ขายจนหมดเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้านซื้อข้าวซื้อยา ร่วมถึงแพมเพิร์สให้กับหลานสาว นางมาลี กล่าวต่อว่า ส่วนนายสำเนียง ผูกพันธ์ อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นตา มีอาชีพขับรถบรรทุกดินพอมีรายได้เป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัววันละ 200 – 300 บาท แต่ก็ไม่ได้มีงานให้ทำทุกวัน ส่วนน้องชายของ น.ส.ขวัญกมล ก็ต้องหยุดเรียนกลางคันขณะที่กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 เพื่อออกมาช่วยดูแลพี่สาว เนื่องจากยายอายุมากแล้วดูแลคนเดียวไม่ไหวทุกครั้งเห็นหลานสาวน้ำตาไหล ยายก็อดที่จะหดหู่ด้วยความสงสารไม่ได้หลานสาวเป็นความหวังหนึ่งเดียวในอนาคต เป็นเด็กตั้งใจเรียนหนังสือและเรียนเก่งมากได้เกรด 4 ทุกวิชา หลานสาวเคยบอกกับตายายว่าเมื่อเรียนจบระดับมัธยมแล้วจะไปเรียนต่อระดับปริญญาตรี และตั้งใจว่าจะไปสอบเป็นครูแต่กลับต้องนอนป่วยกลายเป็นคนพิการในที่สุด นางมาลี เล่าอย่างน้ำตาซึม ยายของ น.ส.ขวัญกมล กล่าวต่อว่า บางครั้งนำรูปภาพเก่าๆ ของน้องขวัญกมล เมื่อครั้งที่มีสภาพร่างกายดีอยู่น้องขวัญกมลถึงกับน้ำตาไหล ยิ่งทำให้ตนเองหัวใจแทบสลาย เวลาสื่อสารจะพยักหน้าและขยับมือข้างซ้ายเป็นการตอบสนองเพราะพูดไม่มีเสียง ทุกเดือนต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลกำแพงเพชรโดยมีเพื่อนบ้านให้การช่วยเหลือ นำรถยนต์ส่วนตัวพาไปส่งให้ เพื่อให้น้องขวัญกมลได้รับการบำบัด รวมทั้งทำการฟื้นฟูสภาพจิตใจมีแพทย์จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลอ่างทอง อสม. ให้กำลังใจและเข้ามาดูแลตรวจดูอาการอยู่เป็นระยะ ส่วนเรื่องการรักษาระยะยาวความหวังอยากให้น้องขวัญกมล ได้รับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทาง ที่โรงพยาบาลศิริราชแต่ด้วยความยากจนไม่มีเงิน ที่จะพาน้องขวัญกมลไปรักษา ส่วนผู้ใจบุญสามารถส่งความช่วยเหลือครอบครัว ได้ที่บัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขากำแพงเพชร บัญชีเลขที่ 309-4-55856-0 ชื่อบัญชี นายสำเนียง ผูกพันธ์ ประเภทออมทรัพย์ หรือสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-9823-1062.