Thursday, February 7, 2013

iStyleMycase เคสแห่งความทรงจำ เพิ่มมูลค่าให้กับอุปกรณ์สื่อสาร

iStyleMycase เคสแห่งความทรงจำ เพิ่มมูลค่าให้กับอุปกรณ์สื่อสาร
เบื่อไหมกับเคสไอโฟนรูปการ์ตูน หรือสีสันสดใสแบบทั่วไป คงจะดีกว่านี้ถ้าเราสามารถออกแบบเคสโทรศัพท์ได้ตามใจชอบ หรือใช้รูปภาพที่ประทับใจพิมพ์ลงไปแทน...ศิลปินหัวใสคนไทยช่างคิด อย่าง โจ้-ณัฐวัฒน์ เปลี่ยนศิริ เริ่มต้นเปิดธุรกิจเอาใจคนรักอุปกรณ์สื่อสาร โดยเฉพาะไอโฟน ซึ่งสิ่งที่ต้องมาพร้อมกับไอโฟนก็คือ เคส หรือก็คือปลอกห่อหุ้มกันกระแทกกันรอยกับตัวโทรศัพท์ แต่ปัจจุบันเคสมีให้เลือกมากมายหลายประเภท ทั้งเคสพลาสติก เคสซิลิโคน แถมยังมีให้เลือกหลายสี หลากลวดลายหากคุณเป็นคนไม่ชอบความแตกต่าง เคสทั่วไปที่ขายได้ท้องตลาดคงตอบสนองความต้องการได้ง่ายๆ ในราคาสบายกระเป๋า แต่หากต้องการความแตกต่าง และสนุกสนานกับปลอกโทรศัพท์ที่โลกนี้มีชิ้นเดียว คงต้องยกให้กับเจ้าของ iStyle หรือ iStyleMycase ผู้บรรเจิดไอเดียเคสไอโฟนชิ้นเดียวในโลก เพื่อคุณโดยเฉพาะ!ด้วยความที่ผู้คิดค้นมีความรู้ความสามารถด้านการถ่ายภาพและตกแต่งรูป จึงเปิดร้านออกแบบไอโฟนที่มีสไตล์ขึ้น โดยใครที่สนใจให้รื้อค้นรูปถ่ายที่โปรดปรานและดูเท่าไหร่ไม่มีวันเบื่อ นำไปให้ iStyle จัดแต่งให้สวยงามตามขนาดของเคสอุปกรณ์สื่อสาร เท่านี้คุณก็จะมีปลอกหุ้มโทรศัพท์ที่มีรูปภาพของคุณเอง และมั่นใจได้เลยว่า ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร สนนราคาเริ่มต้น 350-1,200 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของเคสและสีสันความยากง่ายของรูปภาพด้วย ซึ่ง iStyle จัดทำเคสให้กับ iPhone4/4S, iPhone5, iPad2/the New iPad/iPad4/iPas mini, iPod , Blackberry นอกนั้นก็มีพวกจาน แก้ว เสื้อ พวงกุญแจ ถาดรองแก้ว และนาฬิกาพร้อมกันนี้ เจ้าของร้านยังการันตีถึงคุณภาพของเคสประทับความทรงจำนี้จะคงอยู่ตราบนานเท่านาน เพราะเคสทุกชิ้นจะเคลือบน้ำยากันสารอัลตราไวโอเลตถึง 2 ชั้น รับรองเลยว่าไม่ว่าคุณจะใช้สมบุกสมบันแค่ไหน กาลเวลาจะนานเท่าใด เคสจะไม่มีรอยลอก ขูดขีดรบกวนสายตาเป็นแน่อุปกรณ์สื่อสาร ใครๆ สมัยนี้ก็มีได้ แต่เคสที่แปลก หาดูได้ชิ้นเดียวในโลก ไม่ใช่ใครทุกคนจะมีได้นะจ๊ะ... 

ผบช.ภ.3 สั่ง ตร.เข้มตรุษจีนเพิ่มความปลอดภัยประชาชน

ผบช.ภ.3 สั่ง ตร.เข้มตรุษจีนเพิ่มความปลอดภัยประชาชน
ผบช.ภ.3 เข้มเมาขับเทศกาลตรุษจีน สั่งตำรวจทั้ง 8 จังหวัดสอดส่องดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนอย่างเข้มข้นขึ้น นครราชสีมา เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (8 ก.พ.2556) ที่หน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.เชิด ชูเวช ผบช.ภ.3 เปิดเผยถึงมาตรการการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในช่วงเทศกาลตรุษจีนของพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง เพื่อให้คนไทยเชื้อสายจีนและนักท่องเที่ยวได้ท่องเที่ยวอย่างมีความสุขว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีนต่อเนื่องวาเลนไทน์ตนได้ประชุมกำชับตำรวจทั้ง 8 จังหวัดอีสานตอนล่างไปแล้วในการดูแลพี่น้องประชาชน ในการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรม รวมทั้งเหตุเพลิงไหม้ต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการเดินทางสัญจรของพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว เรื่องการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เรื่องอัคคีภัยในช่วงหน้าแล้ง สภาพอากาศแห้งอาจจะทำให้เกิดไฟขึ้นได้ง่าย การจุดธูป จุดเทียนต้องหมั่นตรวจสอบตรวจตราเมื่อไหว้เสร็จก็ให้ดับให้สนิท รวมทั้งการจุดประทัดต่างๆ การเผากระดาษเงินกระดาษทองต่างๆ เหล่านี้ตำรวจจะลงไปให้คำแนะนำกับพี่น้องประชาชน พล.ต.ท.เชิด กล่าวว่า อาชญากรรมเป็นหน้าที่หลักของตำรวจที่จะต้องทำอยู่แล้ว ทั้งนี้ตนยังได้มอบหมายให้รอง ผบช.ภ.3 แต่ละคนลงไปดู ไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจในแต่ละจังหวัดที่รับผิดชอบส่วนหนึ่ง และแต่ละหน้างานที่มอบหมายไปให้เข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะการฉกชิงวิ่งราว การโจรกรรมทรัพย์สินตามเคหสถานบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนที่ไปท่องเที่ยว พักผ่อนต่างจังหวัดแล้วไม่มีใครอยู่ก็ให้ไปตรวจสอบติดตามสอดส่องดูแล พูดคุยกับเจ้าของบ้านว่าจะไม่อยู่วันไหนถึงวันไหน เพื่อที่ตำรวจจะได้ทราบว่ามีกี่หลังที่จะคอยไปดูแลตรวจสอบเพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดความอบอุ่นใจ นอกจากนี้การจราจร การขับรถก็เช่นเดียวกันต้องเมาไม่ขับ ดื่มไม่ขับ ง่วงก็หยุดพักผ่อนเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อย่างไรก็ตามเราขอให้ทุกคนมีความสุขในโอกาสเทศกาลตรุษจีนกันทุกคน พล.ต.ท.เชิด กล่าว.

เผยคนไทยติดกินหวาน- ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ

เผยคนไทยติดกินหวาน- ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ
เอแบคโพลล์ เผยคนไทยติดกินหวาน ดื่มน้ำอัดลมเกือบทุกวัน บางคนมากกว่า 1 ขวดต่อวัน แถมพ่วงด้วยขนมขบเคี้ยว ไม่กลัวโรครุมเร้า พบหากมีการปรับขึ้นราคาเครื่องดื่ม มีผลทำให้การซื้อลดลง หนุนมาตรการโรงเรียนปลอดน้ำอัดลม...เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2556 เครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวานพบว่า คนไทยรับประทานน้ำตาลสูง กลุ่มเด็กและวัยรุ่นนิยมดื่มน้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำผลไม้ แม้จะมีความรู้ว่าการกินหวานมากเกินไปนั้นทำให้เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ อาทิ โรคอ้วน ฟันผุ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง จึงร่วมกับ เอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ทำการสำรวจเด็กวัยเรียน และหนุ่มสาววัยทำงาน ในกรุงเทพมหานคร และ 4 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี และสงขลา รวมทั้งสิ้น 2,238 ตัวอย่าง โดยพบว่า ตัวอย่าง 2 ใน 3 ยังไม่ลดหรือควบคุมการกินหวาน เกือบ 1 ใน 4 ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำทุกวัน/เกือบทุกวัน บางรายยังดื่มมากกว่า 1 ขวด/กระป๋องต่อวัน และคนที่ดื่มน้ำอัดลมเกือบครึ่งหนึ่ง มักทานขนมขบเคี้ยวกรุบกรอบควบคู่ไปด้วยทุกครั้งหรือที่มีโอกาส เมื่อสอบถามความคิดเห็นต่อการลดปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มลงจนถึงระดับหวานน้อย พบว่าไม่มีผลทำให้กลุ่มตัวอย่างดื่มเครื่องดื่มลดลง แต่เมื่อสอบถามถึงการขึ้นราคา พบว่าหากปรับขึ้นราคาน้ำอัดลม ชา กาแฟ จะมีผลต่อการตัดสินใจลดหรือเลิกดื่ม ยิ่งปรับราคามากขึ้น ยิ่งมีผลต่อการตัดสินใจลด หรือเลิกมากขึ้นตามลำดับ มาตรการด้านภาษีจึงอาจส่งผลต่อการควบคุมเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล ส่วนด้านความคิดเห็นต่อมาตรการการห้ามจำหน่ายน้ำอัดลมในสถานศึกษา พบว่าตัวอย่างส่วนใหญ่สนับสนุนมาตรการดังกล่าวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการห้ามจำหน่ายในโรงเรียนอนุบาล ประถม และมัธยม  ด้าน ทพญ.ปิยะดา ประเสริฐสม ผู้จัดการเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน กล่าวว่า การสำรวจครั้งนี้เพื่อสนับสนุนมาตรการโรงเรียนปลอดน้ำอัดลม และเครื่องดื่มรสหวานในสถานศึกษา ตามที่กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดเป็นนโยบาย ส่วนมาตรการด้านภาษีและราคา แม้การศึกษานี้จะสอดคล้องกับการศึกษาในต่างประเทศ ที่พบว่าเป็นมาตรการที่ช่วยลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงได้ หากแต่ในทางปฏิบัติยังคงต้องมีการประเมินความเป็นไปได้ในการดำเนินการในแง่มุมอื่นๆ เพิ่มเติม

Blog Archive