Tuesday, April 20, 2010

DSIพบสัณฐานรับสำนวนคดี10เม.ย.

DSIพบสัณฐานรับสำนวนคดี10เม.ย.



คมชัดลึก :อธบดีDSI .พบผบช.น.รับสำนวนคดีม็อบเสื้อแดง พร้อมเตรียมแต่งตั้งพนักงานาสอบสวนชุดเดิมเข้าร่วมทีมคดีพิเศษ ขณะที่ รอง ผบช.น.ระบุคดีที่เกิดขึ้นเมื่อ 10 เม.ย.ลำดับตั้งแต่เช้าจรดเย็นรวมไม่ต่ำกว่า 10 คดี






(20เม.ย.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.วรพงษ์ คชรัตน์ เจ้าหน้าที่ระดับ 9 กรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อร่วมประชุมกับพล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รองผบก.น.1 พร้อมพนักงานสอบสวนบช.น. ที่ห้องปารุสกวัน 1 เพื่อประสานข้อมูลคดีทั้งหมดที่เกิดขึ้นช่วงการชุมนุมของกลุ่มนชป. โดยเฉพาะการโอนคดีที่เกิดขึ้นในวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่รัฐบาลใช้กำลังทหารเข้ายึดพื้นที่การชุมนุมบริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ จนกระทั่งเกิดการปะทะกันที่บริเวณสี่แยกคอกวัว โดยมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายสวมชุดสีดำคลุมไอ้โม่ง ใช้อาวุธปืนสงครามยิงกลุ่มผู้ชุมนุม รวมทั้งเกิดเหตุระเบิดขึ้นจนทำให้ทหาร และกลุ่มผู้ชุมนุมเสียชีวิตหลายราย โดยใช้เวลาประชุมนาน 1 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น   พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. กล่าวว่า ได้มีการหารือกันเกี่ยวกับคดีทั้งหมดที่เกิดขึ้น ในวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า มีกรอบในการปฏิบัติงานอย่างไรบ้าง ต้องสอบสวนดำเนินคดีให้โปร่งใส ยุติธรรม และเป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานสอบสวนบช.น. ที่รับคดีเบื้องต้นมีทั้งหมดกี่คดีก็ได้หารือกันเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว ที่สำคัญคดีต่างๆนั้น อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษจะพิจารณานำรายชื่อพนักงานสอบสวนที่มีอยู่ทั้งหมดเสนอ รมว.กระทรวงยุติธรรม แต่งตั้งให้เป็นพนักงานสอบสวนในคดีพิเศษอีกส่วนหนึ่ง ในการประชุมนั้นยึดมั่นเรื่องความโปร่งใส เน้นความยุติธรรม และความรวดเร็วในการปฏิบัติงาน
 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า พล.ต.ท.สัณฐาน ได้ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของบช.น. และผู้ที่ปฏิบัติไปร่วมในการสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งจะนำเสนอนายกฯ และรมว.กระทรวงยุติธรรม ออกคำสั่งให้ทางบช.น. โดยเฉพาะพล.ต.ต.อำนวย เป็นหัวหน้าทีม และที่ปรึกษาการดำเนินคดีในคดีพิเศษ รวมทั้งหน่วยต่างๆ ที่เข้ามาร่วมทำงานด้วยกันประมาณ 10 หน่วย ส่วนบช.น.นั้นทำคดีมาตั้งแต่ต้น เมื่อหลายหน่วยมาทำงานร่วมกัน ยืนยันว่า งานจะมีประสิทธิภาพปราศจากการแทรกแซง การทำคดีโปร่งใสเป็นธรรมไม่ได้ตั้งธง หรือเอนเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพื่อให้ขบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะหน่วยหลักที่รับผิดชอบ คือ บช.น. กับกระทรวงยุติธรรม ทำงานด้วยความถูกต้องเป็นที่ยอมรับของสังคมภายใต้ภาวะที่ไม่ปกติของบ้านเมืองในขณะนี้
 ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการโอนคดีที่บช.น.เป็นคดีพิเศษ นายธาริต กล่าวว่า จะเรียกว่าโอนคดีตามกฎหมายคงไม่ผิด แต่ว่าคนทำคดียังเป็นชุดเดิมประกอบด้วยกำลังหลัก คือ ผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติของบช.น. เจ้าหน้าที่สอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม และหน่วยข้างเคียงเข้าร่วมอีก 10 หน่วย ถามว่า มีกี่คดี นายธาริต กล่าวว่า รายละเอียดกำลังไล่ดูกันอยู่โดยรวมแล้วเป็นคดีที่เกี่ยวกับวันที่ 10 เม.ย. และต่อเนื่องนั้นจะอยู่ในสถานภาพคดีพิเศษเกือบทั้งหมด ถามต่อว่า ที่เคยแยกสำนวนออกเป็น 4 คดี นายธาริต ตอบว่า คงไม่เรียกว่าแยกแต่พฤติการณ์แบ่งได้ประมาณ 4 แบบ ตามมติคณะกรรมการคดีพิเศษ แต่มีทั้งหมดกี่คดีนั้นยังนับไม่ได้
 ด้าน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. กล่าวว่า เหตุการณ์ในวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา สามารถลำดับเหตุการณ์ได้ตั้งแต่ช่วงเช้าที่กลุ่มผู้ชุมนุมไปปิดล้อมที่กองทัพภาค 1 ซึ่งขณะนั้นทั้งกฎหมายอาญา พ.ร.บ.ความมั่นคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และคำพิพากษาศาลแพ่งก็ดี บอกว่า การชุมนุมที่กีดขวางการจราจรนั้นผิดกฎหมาย ทหารกำลังออกไปตั้งด่านเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมเพิ่มเติมเข้ามา เพราะว่าผิดกฎหมาย เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของทหาร กลุ่มผู้ชุมนุมก็เลยมาปิดล้อมเจ้าหน้าที่ไม่ให้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ จึงได้มีการผลักดันไปเรื่อยจนกระทั่งช่วงเย็น และค่ำก็มีเหตุการณ์ที่รุนแรงเกิดขึ้น คดีทั้งหมดเฉพาะวันที่ 10 เม.ย.นั้นต่อเนื่องตั้งแต่เช้ายันเย็น พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความตามท้องที่สน.ต่างๆ แม้กระทั่งอาวุธ ยุทธภัณฑ์ทหารที่สูญหายไปมีประมาณ 10 คดี
 พล.ต.ต.อำนวย กล่าวด้วยว่า คดีที่เกิดขึ้นไม่รวมเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น ถ้าจากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าเกี่ยวข้องก็ต้องเอามาประกอบกัน มันถึงจะกลมกล่อมเห็นภาพชัดเจนขึ้น โดยดูว่าเข้ากันได้เกี่ยวข้องกันหรือไม่ เป็นเหตุการณ์เดียวกันหรือไม่ และคนร้ายชุดเดียวกันหรือกลุ่มเดียวแต่แบ่งหน้าที่กันทำ คดีทั้งกว้าง ลึก และละเอียดอ่อน คณะกรรมสอบสวนคดีพิเศษจึงมีมติให้เป็นคดีพิเศษให้นำเหตุการณ์มาตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ส่วนจะส่งพนักงานสอบสวนไปร่วมกี่นายนั้นอยู่ระหว่างพิจารณาว่า เหตุการณ์ใดน่าจะเกี่ยวถ้าไม่เกี่ยวก็ไม่เอาไปร่วม ด้านสำนวนคดีคืบหน้าไปมากพอสมควรประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์แล้ว ถามว่า สอบปากคำพยานที่บช.น.หรือที่ดีเอสไอ พล.ต.ต.อำนวย ตอบว่า ถ้าแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการสอบสวนแล้วสอบสวนที่ไหนก็ได้อยู่ที่พนักงานสอบสวนมีอำนาจหรือไม่เท่านั้นเอง








ข่าวที่เกี่ยวข้อง"แต้ม"หารือเสื้อแดงร่นพื้นที่เลี่ยงวังสระปทุม "ชวน"ติง"จิ๋ว-สมชาย"อย่าทำระคายเคือง แดงงดเคลื่อนพลอ้างทหารยึดสีลมแล้ว "แม้ว"ประณามมือทำป้าย"ปธน.ทักษิณ" ชาวลีลมแห่มอบ"อาหาร-น้ำดื่ม"แก่ทหาร

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive