ฮือฮา! พบกระดูกคนโบราณ-เครื่องปั้นดินเผาในถ้ำตรัง

ฮือฮา! พบกระดูกคนโบราณ-เครื่องปั้นดินเผาในถ้ำตรัง
ตรังฮือฮารับปีใหม่ ชาวบ้านพบซากโครงกระดูกมนุษย์โบราณภายในถ้ำ และเศษภาชนะเครื่องปั้นดินเผา คาดเป็นแหล่งอารยธรรมเก่า เตรียมประสานนักโบราณคดีเข้าตรวจสอบ...เมื่อวันที่ 2 ม.ค. มีรายงานว่า ร.ต.ท.วรศักดิ์ จำเริญลาภ ร้อยเวร สภ.สิเกา จ.ตรัง รับแจ้งว่าพบโครงกระดูกมนุษย์ภายในถ้ำอ่าวบุญคง ริมหาดราชมงคล ม.1 ต.ไม้ฝาด หลังรับแจ้งจึงรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชากร ชูช่วย พนง.ผนพ.สภ.สิเกา และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ พ.ต.ท.สราวุธ จงจิต รอง ผกก.หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.ตรัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถาน อ.สิเกา จ.ตรัง รุดไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง เดินเท้าบุกน้ำทะเลเข้าไปในป่าโกงกางระยะทางร่วม 4 กิโลเมตร ซึ่งปากถ้ำอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2 เมตรเศษ ตรวจสอบภายในถ้ำพบเป็นชิ้นส่วนอวัยวะโครงกระดูกมนุษย์โบราณที่มีความเก่าแก่นับร้อยๆ ปี กองพะเนินจำนวนมาก และเศษกระดูกชิ้นส่วนอีกจำนวนหนึ่งถูกห่อผ้าขาวไว้ บริเวณใกล้กันพบซากถ้วยชาม ไหโบราณ เศษเครื่องปั้นดินเผา และเครื่องตะแกรงร่อนแร่ และยังมีร่อยรอยของการจุดธูปเทียนกราบไหว้บูชาตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ อยู่ในบริเวณดังกล่าวด้วย คาดเป็นฝีมือชาวบ้านที่ไปหาปลาเข้าไปพบขอเลขเด็ดและเป็นที่พักอาศัยภายในถ้ำดังกล่าวสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ตร.สันนิษฐานว่า อาจเป็นชิ้นส่วนของกระดูกมนุษย์โบราณ และเป็นร่องรอยของอารยธรรมเก่าแก่ที่ครั้งหนึ่งเคยมีผู้อาศัยและตั้งถิ่นฐานอยู่ ทั้งนี้ได้เก็บชิ้นส่วนไว้เป็นหลักฐานและกันพื้นที่ไว้ เกรงว่าชาวบ้านทราบข่าวจะแห่กันมาขุดรื้อหาของเก่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งประสานนักโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต เข้าตรวจสอบหาหลักฐานอย่างเร่งด่วนแล้ว สำหรับในพื้นที่ จ.ตรัง แถบชายฝั่งทะเลอันดามันเคยมีการพบร่องรอยของชนเผ่าโบราณ มาแล้วหลายแหล่งพ.ต.ท.ชากร เปิดเผยกับ ไทยรัฐ ว่าได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้าน ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา ว่า ขณะออกไปตกปลาพบโครงกระดูกมนุษย์จำนวนมากอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง ตรวจสอบเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นโครงกระดูกมนุษย์ยุคโบราณ ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ภายในถ้ำและบางส่วนถูกห่อด้วยผ้าสีขาว พร้อมมีเศษถ้วยชามและไหทรงโบราณอยู่เป็นจำนวนมาก คาดน่าจะมีชาวประมงรายอื่นมาพบและขุดคุ้ยหาสิ่งมีค่าไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฯ ไม่ได้แตะต้อง เพราะไม่ใช่คดีฆาตกรรมตามที่ได้รับแจ้ง แต่เชื่อว่าเป็นการพบโครงกระดูกมนุษย์ยุคหิน ซึ่งเตรียมทำหนังสือขอให้เจ้าหน้าที่สำนักโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต เข้ามาทำการตรวจสอบด่วนซึ่งอาจจะประกาศเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในพื้นที่ อ.สิเกา จ.ตรัง ต่อไป.