Sunday, January 13, 2013

ท่องโลกเกษตรต่างแดนไทยสปป.ลาว

ท่องโลกเกษตรต่างแดนไทยสปป.ลาว
               เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว หลังทีมงาน "ท่องโลกเกษตร" ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับความก้าวหน้าของศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตร ห้วยซอน-ห้วยซั้ว ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งเป็นโครงการดีเด่นอันดับ 1 ของโครงการความร่วมมือระหว่าง ไทยกับ ส.ป.ป.ลาว และถือเป็นไฮไลท์ของทริปพิเศษในโครงการ "ท่องโลกเกษตรต่างแดนรับเออีซี" (AEC) กับรายการ "เกษตรทำกิน" กับ นสพ.คมชัดลึก นำโดยสองเกลอ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ 2556 ปรากฏว่ามีผู้สนใจสอบถามเข้ามาล้นหลาม อยากทราบถึงรายละเอียดในการเดินทางและสถานที่น่าสนใจอื่นๆ                 เพื่อความต่อเนื่องในเรื่องข้อมูล "ท่องโลกเกษตร" อาทิตย์นี้จะนำเสนอรายละเอียดสถานที่ต่างๆ ที่จะเดินทางไป โดยจุดแรกเป็นโครงการศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตร ห้วยซอน-ห้วยซั้ว บ้านนายาง เมืองนาทรายทอง กำแพงนครเวียงจันทน์ (หลัก 22)และเป็นโครงการพัฒนาแห่งแรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2537 ตามคำร้องขอของ ฯพณฯ ไกสอน พมวิหาน อดีตประธานประเทศ เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรชาวลาวให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งขณะนี้มีการขยายผลไปสู่แขวงต่างๆ ทั้ง 17 แขวงใน ส.ป.ป.ลาว                 โดยยึดศูนย์พัฒนาแห่งนี้เป็นแม่แบบในการดำเนินงานด้านการเกษตรแบบครบวงจร ซึ่งการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตร ห้วยซอน-ห้วยซั้ว ได้ใช้แนวทางตามแนวพระราชดำริจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร มาประยุกต์ใช้ตามสภาพภูมิประเทศ ซึ่งมีความใกล้เคียงกัน                 ภายในศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตร ห้วยซอน-ห้วยซั้ว ประกอบด้วย แปลงสาธิตด้านการประมง ปศุสัตว์ การพัฒนาที่ดินและพัฒนาด้านพืช การให้บริการพันธุ์ปลาน้ำจืด พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์และการฝึกอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรที่สนใจ โดยมุ่งเน้นเกษตรกรหมู่บ้านรอบศูนย์ในระยะแรก 5 หมู่บ้าน จนครอบคลุมพื้นที่ทั้งโครงการ พร้อมกับขยายผลไปยังแขวงต่างๆ ทั่วทั้งประเทศ และยังเป็นโครงการดีเด่นอันดับ 1 ของโครงการความร่วมมือระหว่าง ไทยกับ ส.ป.ป.ลาว อีกด้วย                 จากนั้นจะเดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตกาแฟชื่อดังของลาว  ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศและสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟชาวลาวได้เป็นอย่างดี จะเห็นว่าในช่วงระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา กลุ่มชาวไร่กาแฟของลาวได้รับการส่งเสริมปรับปรุง สร้างไร่จากที่กระจัดกระจาย รวมเป็นพื้นที่แปลงใหญ่เพื่อให้เหมาะสมกับการรวบรวม การดูแลรักษา และการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวเพื่อให้เข้าสู่ระบบเกษตรอุตสาหกรรม โดยมีเวียดนามที่เป็นมิตรประเทศได้ให้การสนับสนุน                 ด้วยพื้นที่ที่ใกล้เคียงกันและเชื่อมโยงในด้านผลผลิต เพื่อการส่งออกเป็นสินค้าด้านการเกษตร ที่เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญในกลุ่มเอเชี่ยน แม้กาแฟลาวจะมีส่วนเพียงน้อย แต่ก็ได้วางแผนพัฒนาเพื่อการส่งออกประมาณ 2 หมื่นตันต่อปี เป็นมูลค่าราว 36 ล้านดอลลาร์ โดยมีประเทศสำคัญที่ส่งออกคือ ฝรั่งเศส เยอรมนี และโปแลนด์                      สำหรับกาแฟลาวนั้น เริ่มเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยเมื่อปี 2549 จากงานพืชสวนโลก เฉลิมพระเกียรติฯ และต่อมากาแฟยี่ห้อดังอย่าง สีหนุก ก็มาเปิดเป็นคีออส (Kiosk) กาแฟ ภายใต้แบรนด์ Sinouk Cafe Lao ซึ่งในปัจจุบันมีอยู่หลายแห่งในเมืองเชียงใหม่และจังหวัดทางภาคเหนือ                 จากนั้นวันรุ่งขึ้นก็จะเดินทางไปดูความก้าวหน้าของโครงการโรงเรียนวัฒนธรรมเด็กกำพร้า (หลัก 67) ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2519 โดยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลลาวกับองค์กรการกุศลจากประเทศต่างๆ เพื่อรองรับเด็กกำพร้าสมัยสงครามที่มีก่อนปี 2518 เด็กขาดที่พึ่ง และเด็กจากครอบครัวยากจนทั่วประเทศ แต่ด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณที่จะดำเนินการ ส่งผลให้นักเรียนขาดแคลนที่พัก อาหาร และน้ำ เพื่อการอุปโภคและบริโภค และเป็นโรคขาดสารอาหาร                 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ครั้งแรก ระหว่างวันที่ 15-22 มีนาคม 2533 ได้มีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคทุนทรัพย์โดยเสด็จพระราชกุศลเป็นเงิน 12 ล้านกีบ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำเงินไปก่อสร้างเรือนนอนให้แก่โรงเรียนวัฒนธรรมเด็กกำพร้า ซึ่งอยู่ห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ไปทางทิศเหนือประมาณ 67 กิโลเมตร พระราชทานชื่อว่า “อาคารสิรินธร”                 พร้อมกันนี้ได้มีพระราชดำริที่จะช่วยเหลือนักเรียนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในรูปแบบของโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน โดยนำแนวทางที่ดำเนินการในประเทศไทยมาประยุกต์ใช้ และสนับสนุนการประกอบอาชีพเสริม อาทิ อบรมการทำขนม อบรมช่างไฟฟ้า ช่างไม้ ฯลฯ เพื่อให้นักเรียนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น                 นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ถือเป็นไฮไลท์ของการเดินทางท่องโลกเกษตรต่างแดนรับเออีซี เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและส.ป.ป.ลาวนั่นเอง     .......................................................   ทริปท่องโลกเกษตรต่างแดน"ไทย-ส.ป.ป.ลาว" พฤหัสบดี 21 ก.พ.2556 05.00 น. พร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง 09.00 น. ถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย  10.30 น. เดินทางสู่นครเวียงจันทน์ ส.ป.ป.ลาว 11.00 น. ชมโรงงานผลิตกาแฟยี่ห้อดัง พร้อมกระบวนการผลิต 12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน 13.00 น. ชมการทอผ้าพื้นเมืองและผลิตภัณฑ์ 15..00 น. ชมบรรยากาศตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตร 17.00 น. รับประทานอาหารเย็น 19.00 น. เข้าที่พักโรงแรมดอนจัน พาเลซ หรือเทียบเท่า                ศุกร์ 22 ก.พ.2556 07.00 น. รับประทานอาหารเช้า 08.00 น. เดินทางไปยังศูนย์การพัฒนาการเกษตรห้วยซอน-ห้วยซั้ว ตามแนวพระราชดำริ (หลัก 22)  09.30 น. ฟังบรรยายสรุปกิจกรรมภายในศูนย์ 12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน 14.00 น. เดินทางไปยังโรงเรียนวัฒนธรรมเด็กกำพร้า (หลัก 67) ในพระราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 15.00 น. ฟังบรรยายสรุปกิจกรรมของโรงเรียน พร้อมมอบอุปกรณ์การศึกษาและอุปกรณ์กีฬา 18.00 น. รับประทานอาหารเย็น 19.00 น. เข้าที่พักโรงแรมดอนจัน พาเลซ หรือเทียบเท่า                เสาร์ 23 ก.พ.2556 08.00 น. รับประทานอาหารเช้า 09.00 น. ชมสถานที่ท่องเที่ยวในนครเวียงจันทน์/ไหว้พระ(ตลาดเช้า วัดพระแก้ว วัดพระธาตุหลวงฯ)  12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน  13.00 น. ชมสถานที่สำคัญในนครเวียงจันทน์ (ต่อ)  15.00 น. เดินทางสู่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ส.ป.ป.ลาว   19.10 น. เดินทางสู่สนามบินดอนเมือง  20.10 น. ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ                 สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโต๊ะข่าวเกษตร-ทำกินโทร.0-2338-3358 (ค่าลงทะเบียน 17,500 บาทต่อท่าน /รับเพียง 40 ท่าน)   ........................................ (ท่องโลกเกษตรต่างแดน'ไทย-สปป.ลาว' ตามรอยพระบาทดูโครงการพระราชดำริ : คอลัมน์ท่องโลกเกษตร : โดย...สุรัตน์ อัตตะ)  

No comments:

Post a Comment

Blog Archive