Tuesday, January 22, 2013

เกินมาตรฐานกลิ่นรง.อาหารสัตว์นครปฐม

เกินมาตรฐานกลิ่นรง.อาหารสัตว์นครปฐม
              วันที่ 22 มกราคม หลังจากหลวงปู่พุทธะอิสระ พระนักเทศน์ชื่อดัง ในฐานะเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ขึ้นป้ายขนาดใหญ่ประกาศขายวัดมูลค่า 2,000 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็นของบริษัท อาร์ที อะกริเทค จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตอาหารสำหรับเลี้ยงไก่ ตั้งอยู่บริเวณตรงข้ามกับวัด จนทำให้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องเร่งแก้ปัญหานี้   กลิ่นรง.อาหารรสัตว์"เกินมาตรฐาน"               นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยความคืบหน้าว่า ทางคพ. ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ ห้องปฏิบัติการตรวจทดสอบกลิ่นจากแหล่งกำเนิดมลพิษ และสำนักจัดการคุณภาพอากาศและเสียงลงไปเก็บคุณภาพอากาศ โดยเฉพาะกลิ่นจากโรงงานอาหารสัตว์ได้เก็บตัวอย่างใส่ถุงเก็บอากาศมาแล้ว และผลตรวจสอบทีมผู้ทดสอบกลิ่นที่คพ. ขึ้นทะเบียนไว้จำนวน 6 รายพบค่าเกินมาตรฐานที่กำหนดเอาไว้                   "ยอมรับว่าเรื่องร้องเรียนส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น คพ. สามารถลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆได้แต่การบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อม เช่น การบังคับให้โรงงานแก้ปัญหาปล่อยน้ำเสีย กลิ่นเหม็นต่างๆเป็นอำนาจโดยตรงของท้องถิ่นและกรมโรงงานอุตสาหกรรม ทางคพ. เป็นเพียงหน่วยตรวจสอบมลพิษเท่านั้น ไม่มีอำนาจใดๆ ดังนั้นจึงอยากขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาร้องเรียนทางด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ปัญหาคาราซัง อย่างเช่น กรณีวัดของหลวงปู่พุทธอิสระ จ.นครปฐม เราเคยไปตรวจสอบและแนะนำแนวทางแก้ไขไว้แล้ว แต่ 2 ปีผ่านมาก็ไม่สามารถลดผลกระทบที่เกิดขึ้น" นายวิเชียร ระบุ     เผย"กลิ่น"แชมป์ร้องเรียนปัญหามลพิษปี55                 นายวิเชียร กล่าวว่า สำหรับสถิติปัญหาเรื่องร้องเรียนเรื่องมลพิษ ในปี 2555 คพ. ได้รับเรื่องร้องเรียนปัญหามลพิษ รวม 431 เรื่องและได้มีการตรวจสอบ ติดตามผล ประสานแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้ว 361  เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 84 โดยพบว่าพื้นที่ ที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร หรือร้อยละ 49  รองลงมา ได้แก่ ปทุมธานี นครปฐม นนทบุรี สมุทรสาคร ส่วนปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุดเรียงตามลำดับ คืออันดับแรก กลิ่นเหม็น รองลงมา ฝุ่นละอองและเขม่าควัน ปัญหาเสียงดังและเสียงรบกวน               "ขณะที่ยังพบว่าจากสถิติการร้องเรียนผ่านทางฮอตไลน์ของคพ.หมายเลข 1650 ในปี 55 มีการร้องเรียนทัั้งสิ้น 958 ครั้ง ทั้งนี้เมื่อจำแนกออกเป็น 5 เรื่องร้องเรียนก็พบว่าอันดับเป็นการแจ้งร้องทุกข์ 372 ครั้ง รองลงมาแจ้งศูนย์บริการประชาชน 241 ครั้ง อันดับ 3 แจ้งอุบัติเหตุฉุกเฉิน 196 ครั้ง สอบถามฐานข้อมูลเคมีภัณฑ์ 80 ครั้ง และสุดท้ายสอบถามเรื่องวิธีระงับอุบัติภัยสารเคมี  " อธิบดีคพ. กล่าว               นายวิเชียร กล่าวว่า นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมา คพ. มีการตรวจสอบเพื่อบังคับใช้กฎหมายกับแหล่งกำเนิดมลพิษ อาคารประเภท ก การเลี้ยงสุกร ที่ดินจัดสรร ระบบบำบัดน้ำเสียรวมชุมชน นิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการอุตสาหกรรม ซึ่งโดยภาพรวมมีการปฏิบัติตามกฎหมายเพียง ร้อยละ 43 และเจ้าพนักงานควบคุมมลพิษได้มีการออกคำสั่งให้แหล่งกำเนิดเหล่านี้จัดให้มีระบบบำบัดน้ำเสีย เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อให้บำบัดน้ำทิ้งให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนการตรวจสอบยานพาหนะ พบรถยนต์ควันดำเกินมาตรฐาน ประมาณไม่เกินร้อยละ 2   ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลุยตรวจ               ทั้งนี้เมื่อเวลา 10.00 น. นายวิสรรค์ จำรัสผลเลิศ กรรมการผู้จัดการบริษัทอาร์ที อะกริเทค จำกัด พร้อมด้วยวิศวกรประจำโรงงาน  นำนายอดุลย์กิตติ วุฒาพาณิย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ห้วยขวาง นายธนณัฐ ศรีสันต์ ปลัดอำเภอ(อาวุโส)รักษาราชการแทนนายอำเภอกำแพงแสน พ.ต.อ.สมบัติ อ่อนสมบูรณ์ ผกก.สภ.กำแพงแสน พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ ด้วงพูลอนันต์ สว.ชุดปฎิบัติการที่ 2 ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ               นายประเสริฐ โฆษิตพิรุณ หัวหน้าฝ่ายโรงงาน รักษาการแทน อุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม นายธำรงศักดิ์ บุญญานิตย์ ผู้อำนวยการสำนักโรงงานอุตสาหกรรมรายสาขา1 กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม นายสุวรรณ นันทศรุต ผอ.สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 5 พร้อม เจ้าหน้าที่ทีมตรวจสอบแหล่งกำเนิดมลพิษ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 5 พื้นที่รับผิดชอบชัยนาท สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสาคร นายชุมพล ขุนอ่อน นักวิชาการชำนาญการ รักษาการ ผอ.ส่วนตรวจสอบแหล่งกำเนิดมลพิษฝ่ายตรวจสอบและบังคับการ กรมควบคุมมลพิษ พร้อมทีมตรวจแหล่งกำเนิดมลพิษ และผู้แทนสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม ประชุมหาข้อผิดพลาดและวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าในอาคาร โดยกันให้รออยู่ข้างป้อมยามรักษาการณ์ด้านใน ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงเดินทางออกจากห้องประชุมอาคารสำนักงาน               จากนั้นผู้เกี่ยวข้องที่ร่วมประชุมและเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ พร้อมเครื่องดูดปั๊มอากาศ เพื่อเก็บอากาศในโรงงาน 3 จุด และนอกโรงงาน 2 จุด เพื่อไปตรวจสอบในห้องปฎิบัติการฯกรมควบคุมมลพิษ ที่ กทม.และจะทราบผลการตรวจอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 มกราคม               ต่อมานายกอบต.ห้วยขวาง ให้สัมภาษณ์ว่า จากการตรวจสอบภายในโรงงานพบว่ามีกระบวนการจัดการบำบัดฝุ่น และกำจัดกลิ่นมาตลอด แต่เมื่อมีผู้ร้องว่ามีกลิ่นมาก ทางโรงงานก็พยายามหาวิธีแก้ไขปัญหา โดยการสร้างระบบกำจัดกลิ่นแบบใช้โอโซน และใช้การบำบัดด้วยระบบน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางโรงงานพยายามทำอยู่ และด้วยความจริงใจของผู้บริหารโรงงานได้ยื่นแสดงความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาด้วยการขอผลิตสินค้าตามออร์เดอร์ที่ค้างไว้ให้หมด และจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ และหรือสินค้าหมดก็จะหยุดพักการผลิตเพื่อดำเนินการปรับปรุงแก้ไข และจากการสรุปสาเหตุและสิ่งที่ทางโรงงานแสดงความจริงในเหล่านี้ก็จะนำเรื่องไปกราบเรียนหลวงปู่พุทธะอิสระให้ทราบ และเชื่อว่าหลวงปู่คงเห็นใจและเมตตาทางโรงงานฯที่มีความจริงใจที่จะแก้ไข               ด้านนายวิสรรค์ กล่าวเพียงสั้นๆว่าจะเร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นและว่าขอเวลาให้ปรับปรุงแก้ไข               ขณะที่นายสุวรรณ นันทศรุต ผอ.สิ่งแวดล้อมภาค5 กล่าวว่า เข้าตรวจสอบจุดที่ก่อให้เกิดเขม่าควัน มี 3 จุด คือส่วนสายพานลำเลียง จุดเผาไหม้ ที่ใช้น้ำมันปาล์มเป็นเชื้อเพลิง และจุดปั้นเม็ด ซึ่งทั้ง3 จุดมีเครื่องมือป้องกันในแต่ละประเภท โดยมีระบบการแก้ไขปัญหามากว่าร้อยละ 80 และทราบว่าโรงงานก็พยายามหาวิธีและหาเทคโนโลยีใหม่ๆมาช่วยแก้ไขอยู่เสมอ แต่ด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นพระสงฆ์และวัดได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องและเป็นเรื่องละเอียดอ่อน               รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษได้ดูดเก็บอากาศภายในโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ที่เป็นช่วงปล่องทั้ง 5 ปล่อง และสายพานลำเลียง เพื่อนำไปตรวจสอบ และสุ่มเก็บอากาศจากนอกโรงงานผลิต ในรัศมีทิศทางลมของวันนี้ 2 จุด เพื่อไปตรวจวัดหาค่าทางวิทยาศาสตร์               ด้านพ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ ด้วงพูลอนันต์ สว.ชป.2 ศปทส.ตร. กล่าวว่า เข้าร่วมตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ เพราะเราเป็นหน่วยที่ทำงานคู่กันทางวิทยาศาสตร์ เมื่อผลการตรวจของกรมควบคุมมลพิษออกมาอย่างไร เกินเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ หากเกินต้องหารือกับกรมควบคุมมลพิษว่าเข้าข่ายพ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมอย่างไรเพราะทางการปกครองสามารถทำได้ตั้งแต่การ เตือน สั่งดำเนินการปรับปรุง ตามระยะเวลา แล้วจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจอีกครั้ง หากพบว่ายังเหมือนเดิม หรือไม่มีการแก้ไขมีโทษปรับวันละ 2000 บาทจนกว่าจะดำเนินการแก้ไขเสร็จ              ขณะที่หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวว่า  "ที่ตรงนี้บ้านเกิดฉัน มาสร้างปัญหามลภาวะแล้วก็นิ่งเฉย เดินออกไปอย่างนี้หรือ เจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่เกี่ยวข้องก็เฉย ปัญหาไม่หยุด อย่าลืมนะ วัดอ้อน้อย เป็นวัดในโครงการเฉลิมพระเกียรติ  จะทำอะไรก็น่าจะเกรงกันบ้าง บ้านกับวัดต้องอยู่ร่วมกันได้ แต่นี่บ้านเบียดเบียนวัด ฉันว่าฉันถอยก็ถูกแล้วนะ"               หลวงปู่พุทธอิสระ กล่าวว่า อาตมามีเพียงบาตร เสื่อและกลด ก็เดินเข้าป่าเหมือนเดิม  ความจริงก็สงสารโรงงานเหมือนกันที่จะต้องถูกกดดัน และหรือต้องเลิกการผลิต แต่ 2 ปี โรงงานไม่คิดที่จะทำอะไรให้ดีขึ้นเลย  เอาเครื่องฟอกอากาศมาให้อาตมา  1 เครื่อง ก็ให้เอากลับไปและให้ไปซื้อให้ชาวบ้านทั้งหมดที่เดือดร้อนแทน แนวทางนี้ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง   เริ่มแรกเห็นขึ้นโครงสร้างให้คนไปถาม บอกสร้างโกดังเก็บสินค้า ต่อมาไม่นานผุดเป็นโรงงานอุตสาหกรรม อ้างว่าย้ายฐานการผลิตมาจาก อ.บางเลน พื้นที่ประสบอุทกภัย เมื่อถามว่าบริเวณนี้เป็นพื้นที่สีเขียว สีเหลือง ห้ามก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม ทางอบต. ในสมัยนั้น ตอบว่าพื้นที่บริเวณที่ก่อสร้างโรงงานฯเป็นพื้นที่ตกสำรวจ พศ.ติดตามปัญหาวัดอ้อน้อย              นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า จากการที่ตนได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐมเข้าไปตรวจสอบ เบื้องต้นตนขอชี้แจงว่า วัดขายไม่ได้พร้อมทั้งได้รับรายงานว่าทางเจ้าของโรงงาน ปลัดอาวุโส ปฏิบัติหน้าที่แทนนายอำเภอกำแพงแสน ได้เข้าไปหารือกับทางหลวงปู่พุทธะอิสระแล้ว สำหรับการขึ้นป้ายของเจ้าอาวาสเป็นเรื่องของทางวัดที่จะเรียกร้องให้เกิดกระแสสังคม ทางพศ.คงจะไปสั่งการให้นำป้ายออกไม่ได้ กาญจนบุรีจี้ย้ายที่ทิ้งขยะไปอยู่ที่อื่น               นายยุทธนา จึงศิริ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี  เปิดเผยว่า  ได้เกิดไฟไหม้กองขยะของเทศบาลเมืองท่าเรือพระแท่น ที่นำมาทิ้งในพื้นบ้านหนองตาแพ่ง หมู่ที่ 7   ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว ชาวบ้านทนไม่ไหวต้องการให้ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบย้ายที่ทิ้งขยะไปอยู่ที่อื่น ที่สำคัญมีโรงเรียนอยู่ใกล้ๆ ส่งผลให้นักเรียนได้รับมลพิษไปทั้งโรงเรียน รวมไปถึงแหล่งผลิตน้ำประปาที่เสี่ยงจะได้รับผลกระทบไปด้วย               นายสมปอง ศรีทอง ผู้ำนวยการ  โรงเเรียน  บ้านหนองตาแพ่ง กล่าวว่า ปัญหาจากกองขยะ มีทั้งกลิ่นเหม็น กลิ่นจากควันไฟ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบไปถึงแหล่งน้ำของชุมชนที่อยู่ไม่ห่างมากนัก ตนจึงไม่เห็นด้วยที่กองขยะจะมาอยู่บริเวณนี้ ซึ่งอยู่กองขยะอยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 500 เมตร               นายวิชัย ล้อศิริ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองท่าเรือพระแท่น กล่าวว่า  ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น ขณะนี่้สภาผ่านงบประมาณมาให้ และได้บริษัทมารับงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเริ่มดำเนินกำจัดขยะได้ประมาณเดือนเมษายนนี้ จะทำให้ความเดือนร้อนของชาวบ้านหมดไป โดยจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนขยะที่มีอยู่ 60,000 ตัน จะยุบลงไป              

No comments:

Post a Comment

Blog Archive