Friday, February 22, 2013

นายกฯรับ 5เม.ย. กทม.บางพื้นที่เสี่ยงไฟตก

นายกฯรับ 5เม.ย. กทม.บางพื้นที่เสี่ยงไฟตก
นายกรัฐมนตรีออกรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยอมรับ วันที่ 5 เม.ย. กรุงเทพฯ บางพื้นที่เสี่ยงไฟตก วอนทุกภาคส่วนประหยัด เล็งนำน้ำมันดีเซล โรงไฟฟ้าที่กำลังซ่อมแซมกลับมาใช้ผลิตไฟฟ้าชั่วคราวเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 23 ก.พ. เทปบันทึกรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องพม่าจะมีการหยุดการผลิตก๊าซธรรมชาติให้กับไทยว่า ทีแรกทางพม่าจะหยุดส่งก๊าซตั้งแต่วันที่ 4-12 เม.ย. แต่เนื่องจากวันที่ 4-5 เม.ย. เป็นวันที่ใช้พลังงานมากสูงสุด จึงได้ประสานขอเลื่อน ซึ่งทางพม่าก็ยอมเลื่อนหยุดส่งก๊าซมาเป็นวันที่ 5-14 เม.ย. ซึ่งจากการเลื่อนดังกล่าว ก็จะทำให้อาจจะมีปัญหาในช่วงบ่ายของวันที่ 5 เท่านั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า วันที่ 5 เป็นผลกระทบสูงสุด เพราะเป็นวันที่ใช้พลังงานมากที่สุด บางส่วนเราก็ใช้แหล่งพลังงานอื่น เช่น น้ำมันเตา มาช่วย แต่ถ้าเราประหยัดตั้งแต่ช่วงนี้ก็จะมีพลังงานใช้มากขึ้นสำหรับวันที่ 5 อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 5 ช่วงบ่ายในบางพื้นที่ อาจจะมีกระแสไฟฟ้าตกบ้าง โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ถ้าวันนี้เรารณรงค์ช่วยกันประหยัดพลังงานให้เร็วขึ้น อย่างน้อยเราก็มีพลังงานสำรอง โดยเฉพาะภาครัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งได้มีมติ ครม. ไปยังทุกหน่วยงานช่วยประหยัดไฟวันละ 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีการรณรงค์ไปยังภาคอุตสาหกรรม หากโรงงานไหนหยุดการผลิตในวันนั้นได้ ก็จะทำให้เรามีพลังงานมากขึ้น ขณะที่ภาคประชาชนเราก็รณรงค์ให้ประชาชนประหยัด หากทำได้ตามแผนในวันที่ 5 เม.ย. เราก็จะไม่ติดขัดส่วนเรื่องนโยบายพลังงานสำรอง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า  ก.พลังงาน มีแผนในการรับมืออยู่แล้ว โดยในแต่ละปีเรามีความต้องการพลังงานอย่างไร ในวันนี้ก็มีทีมงานไปหาแหล่งก๊าซธรรมชาติต่อเนื่อง ทั้งนี้ ยังมีแนวคิดนำน้ำมันดีเซล โรงไฟฟ้าเดิมที่มีการหยุดซ่อม นำกลับมาใช้ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในช่วงนี้ ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคบ้างจึงต้องขออภัยด้วย นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังได้พูดถึงนโยบายในการดูแลคนพิการ ตอนหนึ่งว่า จะส่งเสริมเรื่องเครื่องอำนวยความสะดวกให้มากขึ้น อาทิ ทางลาด สำหรับรถคนพิการ ขณะเดียวกัน ก็จะดูแลคนสูงอายุ เด็ก สตรี เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม ซึ่งนโยบายดังกล่าว ถือเป็น 1 ในยุทธศาสตร์ในการดูแลความเหลื่อมล้ำ ซึ่งจะให้หน่วยงานทางราชการเป็นผู้เริ่มต้น โดยเริ่มจากทำเนียบรัฐบาล และจะรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนเล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าวเพื่อต้อนรับเขตเศรษฐกิจอาเซียน หากในแหล่งท่องเที่ยวมีจุดอำนวยความสะดวกแก่คนพิการ คนสูงอายุให้ได้รับความสะดวกสบายก็เชื่อว่าจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย

No comments:

Post a Comment

Blog Archive