นักวิทยาศาสตร์รัสเซีย ยืนยันผลทดสอบเศษหินขนาดเล็ก ที่พบรอบทะเลสาบน้ำแข็งจุดตกของอุกกาบาต ว่าเป็นเศษชิ้นส่วนของอุกกาบาตจริงๆ... สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 18 ก.พ. ว่า นักวิทยาศาสตร์จากมาหาวิทยาลัยของประเทศรัสเซีย ยืนยันการค้นพบเศษของอุกกาบาตขนาดเล็ก ซึ่งตกลงในทะเลสาบน้ำแข็งในเมืองเชบาร์คุล ของแคว้นเชลยาบินสค์ ออบลาสแล้ว หลังเกิดเหตุอุกกาบาตตกในภูมิภาคดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่งพลังคลื่นเสียงทำให้กระจกของอาคารนับพันแห่งแตกกระจาย และมีผู้บาดเจ็บราว 1,200 คน เมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ที่แล้ว 15 ก.พ. เกิดเหตุ อุกกาบาต ร่วงหล่นที่เมืองเชลยาบินสก์ แถบเทือกเขาอูรัล ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ลำดับที่ 2 ของรัสเซีย ก่อนระเบิดกระจายเป็นเสี่ยงๆ จากนั้นมีการค้นพบรูขนาดใหญ่ที่ทะเลสาบน้ำแข็งในเมืองเชบาร์คุล และเชื่อว่าเกิดจากสะเก็ดอุกกาบาตส่วนหนึ่งตกทะลุลงไป แต่นักประดาน้ำที่ออกงมค้นหากลับพบเพียงเศษหินสีดำเล็กๆเท่านั้น ขณะเดียวกัน วิคตอร์ โกรคอฟสกี นักวิทยาศาสตร์ซึ่งทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยกลางอูรัลส์ และสถาบันวิทยาศาสตร์รัสเซีย สรุปผลการตรวจสอบเศษหินสีดำขนาดเล็กประมาณ 0.5-1 ซม. จำนวน 53 ชิ้น ที่พวกเขาค้นพบรอบๆทะเลสาบน้ำแข็งดังกล่าว ว่าเป็นเศษของอุกกาบาตจริง โดยเป็นอุกกาบาตชนิดคอนดริต หรือแบบหินล้วน โดยมีส่วนผสมของแร่เหล็กราว 10 เปอร์เซ็นต์ และเขาเชื่อว่ายังมีอุกกาบาตก้อนใหญ่กว่าที่พบอยู่ในทะเลสาบ ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ด้านอวกาศของรัสเซียระบุว่า อุกกาบาตที่ตกใส่เมืองเชลยาบินสก์ มีน้ำหนักราว 10 ตันก่อนที่จะเข้าสู่บรรยากาศโลก ด้วยความเร็วประมาณ 30 กม./วินาที ก่อนที่จะแตกออกขณะอยู่เหนือพื้นโลก 30-50 กม. อย่างไรก็ดี องค์การนาซาของสหรัฐฯเผยว่า อุกกาบาตดังกล่าวมีขนาด 17 ม. มีน้ำหนักกว่า 10,000 ตัน ก่อนเข้าสู่ชันบรรยากาศโลก มีพลังระเบิดราว 500 กิโลตัน หรือแรงกว่าระเบิดนิวเคลียร์ที่ใช้ถล่มเมืองฮิโรชิมาราว 30 เท่า
No comments:
Post a Comment