เกษตรกรเฮ! พายุฤดูร้อนหอบฝนช่วยนาปรังได้น้ำ

เกษตรกรเฮ! พายุฤดูร้อนหอบฝนช่วยนาปรังได้น้ำ
เกษตรกรเมืองโคราชเฮ หลังเกิดพายุฤดูร้อนหอบฝนช่วยนาข้าวที่กำลังแห้งตายให้ได้รับน้ำ ขณะที่เขื่อนหลักหวังให้ฝนตกต่อเนื่องหวังเก็บน้ำเพิ่มช่วยแก้ปัญหาในช่วงฤดูแล้ง...เมื่อเช้าวันที่ 4 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า ฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา จากอิทธิพลของพายุฤดูร้อนในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะข้าวนาปรังของเกษตรกรในเขตชลประทาน เนื่องจากลำน้ำต่างๆ ได้รับน้ำเพิ่มเติมขึ้นเล็กน้อย ประกอบกับฝนที่ตกลงมายังสร้างความชุ่มชื้นให้กับดินทำให้ต้นข้าวในนาของเกษตรกร อย่างเช่นในนาข้าวเขตชลประทานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำมูลบน อ.ครบุรี กลับฟื้นกลับมาเขียวขจีอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาต้นข้าวในนาบางส่วนเริ่มที่จะเหี่ยวเฉาจากสภาพอากาศที่ร้อนและแล้งจัด ส่วนปริมาณน้ำภายในอ่างเก็บน้ำลำมูลบน ถึงแม้ว่าจะมีฝนตกลงมาในพื้นที่เหนือเขื่อนในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา แต่ก็มีปริมาณน้ำไหลลงสู่อ่างเพียงเล็กน้อย เพราะก่อนหน้านี้ สภาพอากาศในพื้นที่ร้อนและแล้งจัดทำให้พื้นผิวดินแห้งฝนที่ ตกลงมาในช่วงนี้จึงถูกดินดูดซับเอาปริมาณน้ำไปทั้งหมด โดยปริมาณล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้อยู่ที่ 44.14 ล้าน ลบ.ม. จากความจุทั้งหมด 141 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 31.30 เปอร์เซ็นต์ ของความจุอ่างยังจำเป็นที่จะต้องส่งน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศและการอุปโภค–บริโภค วันละ 2 หมื่น ลบ.ม. ในขณะที่สถานการณ์น้ำในภาพรวมของ จ.นครราชสีมา นั้น ม.ล.อนุมาศ ทองแถม ผอ.สน.ชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ฝนที่ตกลงมาในช่วงนี้ ยังไม่มีผลต่อการเพิ่มปริมาณน้ำภายในอ่างเก็บน้ำต่างๆ มากนัก เพราะก่อนหน้านี้ สภาพพื้นดินทุกแห่งแห้งแล้งอย่างหนักจากสภาพอากาศที่ร้อน และแล้งจัดโดยเฉพาะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดังนั้น เมื่อเกิดฝนตกลงมาดินที่แห้งแล้งก็จะดูดซับเอาน้ำไปหมดจนแทบจะไม่มี น้ำไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำ อย่างไรก็ตาม มีบางอ่างที่ได้รับน้ำบ้างเล็กน้อยอย่างเช่นอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว ปริมาณน้ำไหลเข้าเมื่อวานนี้อยู่ที่ประมาณ 1.5 แสน ลบ.ม. แต่ก็ยังไม่สมดุลกับปริมาณน้ำที่ต้องส่งเพื่อรักษาระบบนิเวศและการอุปโภค-บริโภค ที่จำเป็นต้องส่งน้ำวันละประมาณ 7 แสน ลบ.ม. แต่หากฝนยังตกต่อเนื่องอย่างนี้ไปอีก 2-3 วัน ก็อาจจะได้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นภายในอ่างต่างๆ อย่างเต็มที่ เนื่องจากดินเริ่มอิ่มน้ำแล้ว แต่ประชาชนก็ไม่ควรที่จะประมาท และจำเป็นที่จะต้องช่วยกันประหยัดน้ำเพื่อให้มีน้ำเพียงพอเหลือใช้ตลอดช่วงหน้าแล้งนี้ต่อไป.