สลด! กระสุนปืนใหญ่ ฉีกร่างสิบเอกดับสยอง

สลด! กระสุนปืนใหญ่ ฉีกร่างสิบเอกดับสยอง
สลด! สิบเอก กองพลทหารราบที่ 9 พร้อมแม่และเพื่อนบ้าน เข้าไปเก็บผักหวาน ในพื้นที่ฝึกซ้อมรบ เกิดไปพบลูกกระสุนปืนใหญ่ที่ถูกยิงตก หวังดี นำไปจุดไฟเผาเพื่อให้ระเบิด แต่เกิดพลาดหนีไม่ทัน ถูกระเบิดฉีกใส่ร่างดับสยอง ส่วนแม่และเพื่อนบาดเจ็บ...วานนี้ (6 เม.ย.56) เวลา 13.00 น. ร.ต.ต.สมใจ ทองมอญ พงส.สภ.พนมทวน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี รับแจ้งว่าได้เกิดเหตุมีชาวบ้าน 3 คน เข้าไปเก็บหาผักหวานในป่าหมู่บ้านหนองสำโรง หมู่ 17 ต.หนองโรง ซึ่งเป็นพื้นที่ฝึกซ้อมยิงกระสุนปืนใหญ่และกระสุนปืนจริงของกองพลทหารราบรักษาพระองค์ แล้วลูกกระสุนปืนเกิดระเบิดใส่ฉีกร่างของชาวบ้าน ซึ่ง 1 ในนั้น เป็นทหารยศสิบเอกกองพันทหารปืนใหญ่ กองพลทหารที่ 9 จนเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 2 ราย หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบกองไฟที่ไหม้เหลือแต่ร่องรอย 1 กอง กองคราบเลือดที่แห้งกรัง 1 กอง และเศษชิ้นส่วนของลูกกระสุนปืนใหญ่ รวมทั้งเศษเนื้อเปื้อนเลือดตกกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณหลายจุด เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมเศษชิ้นส่วนของลูกกระสุนปืนใหญ่ไว้เป็นหลักฐาน และรีบเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 17 บ้านหนองสำโรง ต.หนองโรง ซึ่งเป็นบ้านของผู้ตาย ทราบชื่อผู้ตายรายนี้คือ สิบเอกชวลิต ยิ้มใหญ่หลวง อายุ 28 ปี ทหารสังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ฯ จ.กาญจนบุรี จากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์พบว่า สิบเอกชวลิต ผู้ตายมีบาดแผลถูกสะเก็ดลูกกระสุนปืนใหญ่ที่ระเบิดใส่ร่างจนหน้าท้องฉีกขาดจนไส้ทะลัก ใบหน้าด้านซ้ายฉีกขาดจนหน้าเละ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน คนแรกคือ นางสุนีย์ ยิ้มใหญ่หลวง อายุ 48 ปี เป็นแม่ของสิบเอกชวลิต มีบาดแผลถูกสะเก็ดลูกระเบิดเข้าตามร่างกายหลายแห่ง ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนเพื่อนบ้านอีกคนที่ไปด้วยชื่อนายอำนวย มีแก้วน้อย อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 17 บ้านหนองสำโรง ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี มีบาดแผลถูกสะเก็ดลูกกระสุนปืนใหญ่เจาะเข้าที่หัวไหล่ทั้ง 2 ด้าน บาดเจ็บเล็กน้อย หลังถูกนำส่ง รพ.เจ้าคุณไพบูลย์พนมทวน แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ สิบเอกชวลิต ผู้ตาย พร้อมด้วยนางสุนีย์ และนายอำนวย เพื่อนบ้านได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ปบ- 9535 กทม.เดินทางเข้าไปในพื้นที่ป่า ซึ่งเป็นพื้นที่ฝึกยิงกระสุนจริงของกองพลทหารราบรักษาพระองค์ เพื่อเข้าไปเก็บหาผักหวานป่ามาปรุงอาหาร แต่ระหว่างที่ทั้งสามคนกำลังเดินหาผักหวานอยู่นั้น เกิดไปเจอลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มม.น้ำหนัก 3.5 กิโลฯ ที่ถูกยิงตกอยู่กับพื้นดิน สิบเอกชวลิต ผู้ตายเข้าใจว่า ลูกกระสุนปืนใหญ่ด้าน จึงเดินอุ้มลูกกระสุนปืนใหญ่ไปที่รถ เพื่อจะจุดไฟเผาลูกกระสุนปืนใหญ่เพื่อจุดระเบิด และให้ทุกคนวิ่งหนี แต่ระหว่างที่ผู้ตายกำลังสุมไฟเพื่อเผาลูกกระสุนปืน เกิดวิ่งหลบหนีไม่พ้น ทำให้ลูกกระสุนปืนใหญ่เกิดระเบิดขึ้น เศษชิ้นส่วนของลูกกระสุนปืนใหญ่ที่แตกออกฉีกร่างของสิบเอกชวลิตจนหน้าเละ ท้องแตก ไส้ทะลัก เสียชีวิตคาที่ ส่วนนางสุนีย์ ผู้เป็นแม่ และนายอำนวยเพื่อนบ้าน ถูกสะเก็ดลูกกระสุนปืนใหญ่ระเบิดใส่ร่างได้รับบาดเจ็บคนละเล็กน้อย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบศพให้ญาตินำศพไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป