Saturday, April 24, 2010

เดินหน้า...วินาศกรรม เต็มรูปแบบ

เดินหน้า...วินาศกรรม เต็มรูปแบบ



คมชัดลึก : "มีเสาไฟฟ้าแรงสูงริมถนนสายเอเชียหลังตลาดประตูน้ำพระอินทร์ขาดครับ เหมือนถูกถอดนอตใกล้จะล้มแล้ว" สิ้นเสียงของพลเมืองดีที่โทรแจ้งสำนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้หยุดพักช่วงสงกรานต์ต้องรีบออกสำรวจ ด้วยการเดินเท้าเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ ทันทีที่เห็นสายไฟและแท่งระเบิดผูกติดกับเสาไฟฟ้า เจ้าหน้าที่ต้องรีบออกจากจุดเกิดเหตุ แจ้งตำรวจมาตรวสอบแทน






 เสาไฟฟ้าแรงสูง 2 ต้น สูง 45 เมตร ถูกคนร้ายวางระเบิดซีโฟร์จุดชนวนด้วยไทเมอร์ ต่อเชื่อมสายไฟฟ้ากับระเบิดผูกติดกับโคนเสาไฟฟ้า เสาต้นที่ 1 ระเบิดทำงานเสาไฟฟ้าขาด 1 ขา และยังมีระเบิดซีโฟร์ขนาด 1.5 ปอนด์ ที่ยังไม่ทำงานอีก 2 ลูก ส่วนเสาส่งไฟฟ้าต้นที่ 2 ระเบิดซีโฟร์ทำงานจนระเบิดเสาไฟฟ้าขาด 2 ขา และยังมีระเบิดที่ยังไม่ทำงานอีก 1.5 ปอนด์ บริเวณโคนเสายังพบขวดน้ำดื่ม 1 ขวด เหล้าขาว 1 ขวด คัตเตอร์ 1 เล่ม เทปพันสายไฟ เจ้าหน้าที่จึงเก็บลายนิ้วมือแฝงไปตรวจสอบ
 พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.1 ลงพื้นที่ตรวจสอบสั่งให้ชุดสืบสวนกระจายกำลังหาข้อมูล ไม่นานสายสืบรายงานกลับเข้ามา..."นายครับเมื่อคืนไม่มีความผิดปกติเกิดขึ้นเลยครับ มีเพียง รปภ.ใกล้ที่เกิดเหตุให้ข้อมูลว่าคืนวันที่ 10 เมษายน ได้ยินเสียงระเบิด 2 ครั้ง คิดว่าเป็นเสียงยางรถบรรทุกระเบิดครับ"
 เจ้าหน้าที่วิเคราะห์แล้วมั่นใจว่า คนร้ายมุ่งหวังให้เสาไฟฟ้าแรงสูงทั้ง 2 ต้นล้มลง เพื่อให้ไฟฟ้าดับในวันเดียวกับที่เกิดการปะทะกันระหว่างทหารกับผู้ชุมนุมเสื้อแดงในกรุงเทพฯ สรุปว่าเป็นการก่อวินาศกรรมอย่างแน่นอน
 "สุพรรณ พัวพงษ์" ผอ.ฝ่ายปฏิบัติการภาคกลาง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บอกว่า เสาส่งกระแสไฟฟ้ามีทั้งหมด 4 วงจร รับกระแสไฟฟ้ามาจากโรงไฟฟ้าวังน้อยไปที่สถานีรังสิต โดยจ่ายกระแสไฟฟ้าในเขตปริมณฑลและกรุงเทพฯ รวมถึงวงจรทั้งหมดจะเชื่อมต่อถึงกันทั่วประเทศ ถ้าเสาล้มจะเกิดความเสียหายค่อนข้างสูง ทำให้กระแสไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ดับประมาณ 30 นาที คนร้ายน่าจะมีความรู้เรื่องการส่งกระแสไฟฟ้าระดับหนึ่ง เพราะมีเจตนาให้เสาไฟฟ้าทั้ง 2 ต้นล้มเข้าหากันแล้วทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร
 ต่อมาเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจจากมุมสูง พบอีกฟากถนนห่างจากจุดเกิดเหตุไปทางทิศตะวันออก เหล็กยึดเสาไฟฟ้าแรงสูงฉีกขาดออกจากฐานปูน หัวนอตยึดเสาขาดกระจาย นอกจากนี้ยังพบเสาปูนที่ยึดกับเสาเหล็กถูกแรงระเบิดแตกละเอียด แต่เสาไฟฟ้าไม่ล้ม ซึ่งทั้งหมดเกิดจากแรงระเบิด
 อดีตทหารรายหนึ่งบอกว่า ระเบิดซีโฟร์หาซื้อได้ง่ายในตลาดมืด กลุ่มผู้ประกอบการระเบิดภูเขา หรือกลุ่มทหารทั้งในและนอกราชการ ปริมาณซีโฟร์ที่พบในที่เกิดเหตุคนร้ายมุ่งหวังให้เสาไฟฟ้าและแท่งปูนขาด ทำให้เสาไฟฟ้าล้มลง ทั้งนี้ซีโฟร์ครึ่งกิโลกรัมสามารถหยุดรถถังเอ็ม 112 ได้ หรือทำลายรถบรรทุกได้ทั้งคัน
 ดูเหมือนสถานการณ์บ้านเมืองยังคุกรุ่น และมีการยกระดับการก่อวินาศกรรมขึ้น เมื่อคนร้ายใช้เครื่องยิงจรวดอาร์พีจียิงใส่ถังน้ำมัน บริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด (แทปไลน์) ริมถนนพหลโยธิน-ลำลูกกา (คลองสี่) หมู่ 11 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยถังน้ำมันเลขที่ T-401D ซึ่งเป็นถังเก็บน้ำมัน JET-A1 ที่มีความสูง 18.35 เมตร กว้าง 37.50 เมตร พบคราบเขม่าควันไฟที่ลุกไหม้ เจ้าหน้าที่บริษัทดับไฟจนสงบ ข้างถังยังพบร่องรอยคล้ายถูกยิงด้วยอาวุธเป็นรูโบ๋
 จากการตรวจสอบพบว่า ถนนเลียบมอเตอร์เวย์ห่างคลังน้ำมัน 200 เมตร มีขวดเครื่องดื่มชูกำลังทิ้งไว้ 3 ขวด ตำรวจเก็บไปตรวจรอยนิ้วมือแฝง เชื่อว่าคนร้ายน่าจะจอดรถเลียบทางด่วนมากกว่าอยู่ในช่องทางด่วน และจุดยิงใกล้ถนนมากที่สุด ใช้เครื่องยิงจรวดอาร์พีจียิงเข้าไปเป็นวิถีโค้ง เพราะเจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนท้ายของจรวดอาร์พีจี เป็นกีบท้ายจรวดหัวเจาะเกราะตกอยู่
 คนร้ายมีความประสงค์จะให้ถังน้ำมันระเบิด แต่ถังน้ำมันมีความหนามากเลยปรากฏแค่รูและมีน้ำมันไหลออกมาแล้วเกิดเพลิงไม้ คลังน้ำมันมีมาตรการป้องกันและควบคุมดี จึงควบคุมสถานการณ์ได้ หากเกิดระเบิดขึ้นถังน้ำมันอีกกว่า 20 ถัง จะระเบิดและเกิดความเสียหายไปจังหวัดรอบข้างทั้งปทุมธานี นนทบุรี และพระนครศรีอยุธยา
 ส.อ.ทหารประจำการรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า เครื่องยิงจรวดอาร์พีจี (Rocket propelled grenade : RPG) เป็นอาวุธต่อสู้รถถังขนาดเล็กชนิดประทับบ่ายิง ปากลำกล้องกว้าง 40 มม. ใช้ลูกจรวดขนาด 82 มม. (RPG-2) และขนาด 85 มม. (RPG-7) เป็นอาวุธเสริม ใช้ทำลายรถถังหรือยานยนต์ ที่มั่นกำบัง รวมทั้งสังหารบุคคลเป็นกลุ่มก้อน
 อาร์พีจีมีคุณลักษณะเด่นคือเป็นเครื่องยิงจรวดแบบประทับบ่า ใช้คนยิงคนเดียว บรรจุกระสุนจากด้านหน้า ความยาวลำกล้อง 950 มม. น้ำหนักเครื่องยิงพร้อมลูกกระสุน 1 นัด 7 กิโลกรัม เมื่อใช้หัวจรวดบรรจุระเบิดชนิดดินโพรงขนาด 85 มม. ซึ่งมีลักษณะคล้ายหัวปลี อัตรายิง 3-4 นัดต่อนาที ความเร็วต้น 300 เมตรต่อวินาที รัศมีการยิง 500 เมตร ระยะยิงไกลสุด 1,500 เมตร สามารถเจาะเกราะหนา 35 ซม.
 ในลูกกระสุนเจาะเกราะหรือสังหารบุคคล สามารถสร้างเปลวเพลิงในอัตราความร้อนสูงถึง 3,000 องศาเซลเซียส เป็นเครื่องยิงชนิดเดียวที่ใช้กันแพร่หลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ง่ายต่อการพกพาและก่อเหตุ กลุ่มที่ใช้อาร์พีจีอย่างชำนาญคือกลุ่มทหารพราน เหตุการณ์ครั้งนี้เชื่อว่าเป็นกลุ่มอดีตทหารที่รับใช้นายมายาวนานต่อๆ กันมา  








ข่าวที่เกี่ยวข้องคนดีเจรจาได้คนก่อการร้ายไม่เจรจาด้วย "เสธ.แดง"ปัด"เมธี"เป็นลูกน้อง-รับรู้จักในม็อบ คณบดีนิติฯมธ.แนะรัฐ-แดงถอยคนละก้าวศุกร์ที่ 23 เมษายน 2553

อย่าทิ้งระบบรัฐสภา

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive