Saturday, April 17, 2010

นครบาลเล็งแจ้งข้อหาเพิ่มแกนนำเสื้อแดงหนีจับ

นครบาลเล็งแจ้งข้อหาเพิ่มแกนนำเสื้อแดงหนีจับ



คมชัดลึก :พ.ต.ท.วีระชัย ปฤษฎางคเดชา พนง.สน.บางโพงพาง ได้รับคำสั่งไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการที่ สน.สุวินทวงศ์ 60 วัน สาเหตุเข้าร่วมประชุมรับมือม็อบเสื้อแดงล่าช้า ขณะที่เจ้าตัวไม่ติดใจประกอบกับสุขภาพไม่แข็งแรง






 (17เม.ย.) พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) เปิดเผยถึงกรณีที่มีคำสั่งให้ พ.ต.ท.วีระชัย ปฤษฎางคเดชา พนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง ไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการที่ สน.สุวินทวงศ์ 60 วัน ว่า คำสั่งดังกล่าว เป็นคำสั่งที่ บช.น.ที่ 154/2553 ลงวันที่ 13 เมษายน 2553 และมีผลตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2553 โดยคำสั่งดังกล่าว เป็นคำสั่งตรงจาก พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)
 เนื่องจาก พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ผู้รับผิดชอบงานสอบสวน ได้รายงานว่า พ.ต.ท.วีระชัย ประพฤติตนไม่เคร่งครัดต่อระเบียบแบบแผนของตำรวจ กรณีเข้าร่วมประชุมเพื่อแบ่งมอบหน้าที่การสอบสวนล่าช้า กรณีกลุ่ม นปช. ชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองและเกิดเหตุวุ่นวายจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ต้องปฏิบัติในทันที แต่พ.ต.ท.วีระชัย มาร่วมประชุมล่าช้าล่วงเลยเวลาที่ได้กำหนด โดยไม่มีเหตุอันควร จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการปรับเปลี่ยนการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.ท.วีระชัย เพื่อให้การบริหารงานบุคคลในภาพรวมของหน่วยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
 พ.ต.ท.วีระชัย  กล่าวว่า ตนได้รับหนังสือเรื่องการโยกย้ายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่สน.สุวินทวงศ์ เป็นเวาล 60 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน แต่การโยกย้ายดังกล่าวไม่ได้เป็นการลงโทษเรื่องการไม่เคร่งครัดในการปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด แต่ถูกโยกย้ายเพราะตนเป็นคนขอผู้บังคับบัญชาให้ย้ายตนจากสน.บางโพงพาง ไปปฏิบัติหน้าที่ที่สน.สุวินทวงศ์เอง เนื่องจากสุขภาพไม่แข็งแรง ป่วยเป็นโรคความดัน และเบาหวาน ทำให้บางครั้งที่ผู้บังคัญชาเรียกประชุมหรือปฏิบัติหน้าที่อาจจะลงพื้นที่ช้า แต่นายก็เข้าใจ ตนจึงเห็นว่าพื้นที่สน.สุวินทวงศ์อยู่ใกล้บ้าน ไม่ต้องเดินทางไกล มีคดีน้อย จึงอยากใช้เวลาในการพักผ่อนรักษาตัวจากอาการป่วยดังกล่าว
 ด้านพล.ต.ต.อำนวย กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่าเพียงสั้นๆว่า เมื่อมีการเรียกประชุม พ.ต.ท.วีระชัย ไปถึงช้า จึงต้องมีการลงโทษ
นครบาลเล็งแจ้งข้อหาเพิ่มแกนนำเสื้อแดงหนีจับ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 เม.ย. ที่ บช.น. พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก บช.น. แถลงเรื่องการจัดโครงสร้างกำลังตำรวจให้ไปขึ้นกับ กอ.รมน.ภาค.1 ว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แจ้งว่า มีการปรับกำลังตำรวจให้กลับมาขึ้นตรงกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีภารกิจหลักดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย หากภารกิจนอกเหนือจากนั้นต้องได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร.เท่านั้น ส่วนกำลังพลของ บช.น.นั้น พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.ได้เน้นย้ำตำรวจในสังกัดทุกนายให้หลีกเลี่ยงความรุนแรง โดยให้เน้นการเจรจา และห้ามกำลังพลพกพาอาวุธปืน และระเบิดโดยเด็ดขาด เว้นแต่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
 พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า สำหรับกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชนของแต่ละกองบังคับการ ซึ่งเดิมมีอยู่ 2 กองร้อยนั้น ได้มีการส่งกำลัง 1 กองร้อยกลับคืนแต่ละกองบังคับการแล้ว จากนี้ไป บก.น.1-9 ห้ามอ้างว่ากำลังพลดูแลพื้นที่ไม่เพียงพอ โดยในการดูแลพื้นที่ต่างๆนั้น ให้เน้นงานสายตรวจเดินเท้าเพื่อปรากฏกายให้ประชาชนเห็น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีร้านค้า ตลาด ห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยว และสถานีขนส่ง ส่วนงานด้านจราจรนั้น เน้นย้ำให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด หากใครทำผิดกฎจราจรก็ดำเนินการตามกฎหมายทันที นอกจากนี้พนักงานสอบสวนตามสถานีตำรวจต้องเอาใจใส่คดีมากยิ่งขึ้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า พนักงานสอบสวนไม่ค่อยดูแลคดีเท่าที่ควร
 โฆษก บช.น. กล่าวด้วยว่า ส่วนภารกิจพิเศษเรื่องถวายอารักขาความปลอดภัยแก่ราชวงศ์จะต้องร้อยเปอร์เซ็น เน้นเส้นทางเสด็จ พระราชวัง อย่างเคร่งครัด ห้ามบกพร่องเด็ดขาด โดยเฉพาะในส่วนของพื้นที่การชุมนุมที่อยู่ใกล้พระตำหนักก็ให้สนธิกำลังกับทหารเข้าไปดูแลเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม เป็นที่ซาบซึ้งแก่เจ้าหน้าที่ทุกนายที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้พระราชทานความช่วยเหลือแก่ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูง
 ผู้สื่อข่าวถามถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการจับกุมแกนนำ นปช. ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. ได้ชี้แจงไปแล้ว ถือว่าไม่ใช่ข้อผิดพลาด แต่เจ้าหน้าที่เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก หากจับกุมไม่สำเร็จก็สามารถติดตามจับกุมใหม่ได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีการปรับปรุงการทำงานให้มีความชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะ ผบ.พื้นที่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ฝ่ายสอบสวนกำลังดำเนินการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับกลุ่มแกนนำคนเสื้อแดงที่หลบหนีการจับกุม ซึ่งกำลังพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดในข้อหาใดบ้าง
 เมื่อถามถึงกลุ่มคนเสื้อหลากสีที่ชุมนุมบริเวณหน้า ราบ 11 นั้นเข้าข่ายผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ผิดส่วนหนึ่ง แต่ก็ต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่นด้วย หากไม่มีการปะทะกัน หรือไม่มีการก่อความวุ่นวายก็อะลุ่มอล่วยกันได้  








ข่าวที่เกี่ยวข้องเสื้อหลากสีนับพันคนรวมตัวแสดงพลังรักชาติเสียงลำโพงแดงกระทบสมเด็จพระสังฆราช ทนายแดงโร่พบตำรวจขอแกนนำมอบตัว15พ.ค.สรรเสริญแจงมาร์คตั้งอนุพงษ์คุมศอฉ.สุเทพยังนั่งผอ.มาร์คตั้งอนุพงษ์คุมศอฉ.อัษฎางค์มองปัดรับผิดชอบ

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive