Wednesday, January 30, 2013

คุก10ปี ตร.สภ.คูคต พกเอ็ม79 ฝ่าด่านตรวจช่วงแดงชุมนุม

คุก10ปี ตร.สภ.คูคต พกเอ็ม79 ฝ่าด่านตรวจช่วงแดงชุมนุม
ศาลพิพากษาจำคุก จ.ส.ต.ปริญญา มณีโคตม์ ตำรวจ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี พกระเบิด เอ็ม 79 ฝ่าด่านตรวจทหาร ช่วง นปช.ชุมนุมปี 2553... วันนี้ (31 ม.ค.56) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา เวลา 10.00 น. ศาลอ่านคำพิพากษาคดี ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง จ.ส.ต.ปริญญา มณีโคตม์ อายุ 40 ปี อดีต ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เป็นจำเลย ในความผิดฐาน มีกระสุน เครื่องกระสุน และอาวุธสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 4, 55 และ 78 โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 28 เม.ย.53 จำเลยมีลูกระเบิดยิงขนาด 40 มม.แบบเอ็ม 79 ชนิดระเบิดเจาะเกราะ และชนวนแบบเอ็ม 403 สภาพพร้อมใช้งานรวม 62 นัด แรงระเบิดมีอานุภาพสังหารชีวิต มนุษย์ สัตว์ และทำลายทรัพย์สินเสียหายในรัศมีฉกรรจ์ 5 เมตร ไว้เพื่อจำหน่ายราคาลูกละ 1,200 บาท อันเป็นความผิดตามกฎหมาย ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 พ.ศ.2522 ลงวันที่ 1 ก.ค.22 และออกตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 เหตุเกิดที่แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กทม. จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย ที่ตั้งด่านตรวจความมั่นคง บริเวณ ถ.วิภาวดีรังสิต เบิกความสอดคล้องกันว่า ขณะนั้นมีการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เมื่อตั้งด่านพบชายขี่รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน พงน 68 กรุงเทพมหานคร สวมหมวกกันน็อกสีเทาแบบครึ่งศีรษะ และเปิดกระจกหน้า จึงเรียกให้หยุด พบมีหมวกกันน็อกสีแดงวางที่ตะกร้าหน้ารถ และมีกล่องที่ปิดมิดชิดห่อด้วยพลาสติกสีดำอยู่เบาะด้านหลังโดยมีสายรัดไว้แน่นหนา เมื่อเรียก ชายดังกล่าวหยุดแต่ไม่ดับเครื่องยนต์ พยานคนหนึ่งจึงยืนคร่อมหน้ารถ ส่วนอีกคนยืนประกบท้ายรถไว้ และเมื่อจะให้รถมาชิดฟุตปาท คนขี่อาศัยจังหวะนั้นขี่รถหลบหนีด้วยความรวดเร็ว พยานที่เป็นตำรวจ 2 นายจึงขี่รถ จยย.ไล่จับกุม คนร้ายขี่หลบหนีเข้าซอยวิภาวดี 1 ไป โดยระหว่างที่ขี่รถหลบหนีนั้น เจ้าหน้าที่ทหารที่วิ่งไล่ตามพบกระเป๋าเงินสีดำ และกล่องสีดำที่มัดอยู่ท้ายรถคนร้ายตกอยู่ เมื่อเปิดดูพบบัตรข้าราชการตำรวจ บัตรประชาชน และบัตรชมรมยิงปืนระบุชื่อจำเลย พยานจึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาและรายงาน ศอฉ. ส่วนกล่องดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่กรมสรรพาวุธ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเครื่องกระสุน และลูกระเบิดของกลาง ภายหลังเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมจำเลยได้ พยานทั้ง 3 ปาก ได้ชี้ตัวยืนยันการจับกุม เห็นว่าพยานโจทก์ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน ปราศจากข้อระแวงสงสัยว่าจะให้การปรักปรำจำเลย จึงเชื่อว่าพยานเบิกความตามที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ยังมีผลการตรวจดีเอ็นเอ ที่ได้จากหมวกกันน็อกที่ยืนยันว่าเป็นของจำเลยอีกด้วย พยานหลักฐานจำเลยไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานโจทก์ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานครอบครองเครื่องกระสุนปืน ที่นายทะเบียนไม่อนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ ม.55 และ ม.78 วรรค 1 ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 10 ปี

No comments:

Post a Comment

Blog Archive