Sunday, February 17, 2013

กอ.รมน.ภาค4เน้นย้ำแผนพิทักษ์เมือง ช่วยคุมสถานการณ์ป่วนใต้

กอ.รมน.ภาค4เน้นย้ำแผนพิทักษ์เมือง ช่วยคุมสถานการณ์ป่วนใต้
โฆษก กอ.รมน. ภาค 4 เน้นย้ำแผนพิทักษ์เมือง ชี้ระยะหลังชาวบ้านให้ความร่วมมือเต็มที่ แจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้รวดเร็ว เชื่อจับกุมคนร้ายบึมที่ปัตตานีได้แน่ แม้แต่งกายเลียนแบบหญิงมุสลิมอำพราง ... เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ก.พ. ที่ศูนย์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์โฆษก เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบมีการแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจรวมทั้งแต่งกายด้วยชุดคลุมของสตรีมุสลิมในการก่อเหตุร้าย ซึ่งในเรื่องนี้กลุ่มคนร้ายทำในเชิงสัญลักษณ์มาโดยตลอด ในเรื่องของการแต่งกายพี่น้องประชาชนในพื้นที่ก็คงจะทราบข้อมูลในเรื่องนี้ดี มีการแต่ง 2 ลักษณะ โดยลักษณะแรกมีการแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจไปสร้างสถานการณ์ และสิ่งที่จะตามมา หลังจากสร้างสถานการณ์แล้ว ก็จะมีการปล่อยข่าวลือว่า เป็นผีมือของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะการไปทำร้ายพี่น้องที่นับถือศาสนาอิสลาม หรือไปทำร้ายอุซตาซ (ครูสอนศาสนา)ในพื้นที่ อันนี้ก็เป็นวิธีการที่กลุ่มคนร้ายสร้างกระแสความเชื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และทำให้เกิดความหวาดระแวงต่อกัน ในการแต่งกายเลียนแบบสตรีมุสลิมก็เช่นเดียวกัน เป็นการแต่งกายที่ต้องการตบตาเจ้าหน้าที่ และพี่น้องประชาชนจะเห็นได้ว่าการก่อเหตุในลักษณะการวางเพลิง หรือการลอบวางระเบิดในพื้นที่เขตเมือง มีการแต่งกายเลียนแบบสตรีมุสลิม เพราะในหลักของศาสนาอิสลามในการตรวจค้นสตรีมุสลิม เป็นสิ่งที่มีความยุ่งยาก ในเรื่องนี้พี่น้องประชาชนสามารถสังเกตได้ง่ายหากย้อนไปดูเหตุการณ์ระเบิดในเขตเมืองปัตตานี เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น จะเห็นได้ว่าถึงแม้มีการแต่งกายในชุดสตรีมุสลิม เมื่อสังเกตจากลักษณะของโครงร่าง ท่าทางในการเดินค่อนข้างจะเห็นชัดได้ว่าเป็นผู้ชาย ในเรื่องนี้ก็ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยกันสังเกตอย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ จ.ปัตตานี เมื่อคืนที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ต้องขอขอบคุณความร่วมมือของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ให้ความสำคัญ และเริ่มแจ้งเบาะแสที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ ถ้าหากว่าพี่น้องประชาชน ไม่ให้ความร่วมมือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ จ.ปัตตานี เมื่อคืนที่ อาจจะมีความรุนแรงมากและมีความเสียหายมากกว่านี้ และปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมามีการควบคุมได้อย่างรวดเร็ว เรื่องแรก คือเรื่องของความพร้อมในแผนพิทักษ์เมืองปัตตานี โดยการนำโดย นายประมุข ลมุล ผวจ.ปัตตานี ในส่วนที่สอง คือ งานด้านการข่าว มีความชัดเจนสามารถที่จะสั่งการเตรียมพร้อมในส่วนต่างๆ ได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะรถดับเพลิงสามารถเข้าควบคุมเพลิงได้อย่างรวดเร็ว และสิ่งที่เป็นปัจจัย และก็มีความสำคัญที่สุด คือการร่วมมือร่วมใจของพี่น้องประชาชนที่ช่วยดูแลแทนเจ้าหน้าที่ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เป็นตาสับปะรด โอกาสที่คนร้ายจะเล็ดลอดเข้ามาก่อเหตุก็จะยากขึ้น สำหรับคนร้ายที่แต่งกายเลียนแบบสตรีมุสลิม เมื่อคืนที่ผ่านมาในการติดตามจับกุมตัวคงไม่ยาก เพราะกล้องสามารถที่จะบันทึกภาพได้เกือบทั้งหมด ถึงแม้ว่าจะใช้ผ้าคลุมศีรษะก็ตาม เพราะมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อีกหลายอย่างที่สามารถนำมาประกอบในการเข้าไปติดตามจับกุมตัว สำหรับแผนพิทักษ์เมืองทั้ง 7 หัวเมือง เศรษฐกิจ ประกอบด้วย อ.เมืองยะลา เบตง อ.เมืองปัตตานี อ.เมืองนราธิวาส อ.ตากใบ อ.สุไหงโก-ลก ทั้ง อ.หาดใหญ่ ในห้วงที่ผ่านมาได้ให้อำนาจกับฝ่ายปกครองในการวางแกนหลักในการวางระบบรักษาความปลอดภัยในแต่ละพื้นที่ มีการวางระบบที่ต่างกันในบางพื้นที่มีการกำหนดเป็นเซฟตี้โซน บางพื้นที่ได้กำหนดเป็นโซน ซึ่งที่ผ่านมากำลัง 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองโดยทหารจะดูแลในพื้นที่รอบนอกได้มีการทบทวนและการซ้อมแผนการปฏิบัติกันทุกเดือน ในพื้นที่หาดใหญ่ก่อนเข้าเทศกาลตรุษจีนมีการซ้อมใหญ่ถึง 2 ครั้ง เช่นเดียวกับพื้นที่ปัตตานีและยะลา มีการซ้อมแผนมาโดยตลอด ในเรื่องนี้ที่เป็นหัวใจสำคัญที่เป็นข้อเน้นย้ำของนายกรัฐมนตรีให้ดูแลอย่าให้เกิดในเขตเมืองเขตเศรษฐกิจ ให้มีความปลอดภัย หลังเกิดเหตุที่บาเจาะ ทางทหารได้มีการเน้นย้ำมาโดยตลอด ในเรื่องของการเพิ่มความเข้มการดูแลในเขตพื้นที่เขตเมืองให้มากขึ้นทำให้เกิดความไม่สะดวกของประชาชนต้องขออภัยด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนและป้องกันความสูญเสียในทรัพย์สินของประชาชน สิ่งที่มีการสร้างเงื่อนเพื่อการต่อสู้ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่ผ่านมามีอยู่ 2 ประการใหญ่ๆ ประการที่ 1 คือ การสร้างความเกลียดชัง กระแสของความไม่เป็นธรรมของเจ้าหน้าที่รัฐในอดีต ในประการที่ 2 การสร้างความเกลียดชัง ในการบิดเบือนทางประวัติศาสตร์ และศาสนา นำมาเป็นพลังในการสร้างเงื่อนไข เพื่อให้ประชาชนเกิดความเกลียดชังต่อเจ้าหน้าที่รัฐเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ก็เช่นกัน ทางเจ้าหน้าที่รัฐ มีการเข้าไปพูดคุยกับครอบครัวที่เสียชีวิต ย่อมมีความเสียใจต่อการสูญเสียของหัวหน้าครอบครัว หรือบุตรหลาน ก็ไม่ต่างจากทุกคนที่เกิดการสูญเสียเช่นเดียวกัน ซึ่งในการนำเสนอในบางเรื่องก็เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน ตนเห็นว่าการให้ความเป็นธรรมของเจ้าหน้าที่รัฐได้ตระหนักในเรื่องนี้มาก โดยเฉพาะกรณีเหตุการณ์ที่ตากใบเป็นบาดแผลของทุกคน และชาวไทยทั้งประเทศการปฏิบัติหลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่รัฐได้เข้าไปสร้างความเข้าใจกับบุคคลที่ถูกควบคุมในขณะนั้นกว่า 1,000 คน นำไปสู่การช่วยเหลือเยียวยามาโดยตลอด แต่กรณีที่กลุ่มคนร้าย ไปบุกโจมตีฐานที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ตากใบ ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปพูดคุยกับครอบครัวเพื่อโน้มน้าวให้ออกมาพูดคุยกัน แม้ในช่วงระยะหลัง ทุกหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ ได้เข้าไปพบปะพูดคุยกับพ่อแม่และครอบครัว เพื่อโน้มน้าวให้ออกมาตามโครงการสานใจสู่สันติสุขซึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาลเปิดกว้าง เพื่อรับฟังความคิดเห็นต่างของผู้ที่ใช้ความรุนแรง.

No comments:

Post a Comment

Blog Archive