สมาคมขนส่งสินค้าฯ ออกโรงแฉส่วยท่าเรือพรุ่งนี้!

สมาคมขนส่งสินค้าฯ ออกโรงแฉส่วยท่าเรือพรุ่งนี้!
สมาคมขนส่งสินค้าออกโรงแฉส่วยท่าเรือพร้อมเปิดโปงข้อมูลโอทีอัปยศ ให้สังคมได้รับทราบทั่วกันในวันพรุ่งนี้ อ้างแบกรับภาระต้นทุนแฝงมานานนับ 10 ปีเมื่อวันที่ 17 ก.พ. นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานที่ปรึกษา และกรรมการสมาคมขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าและส่งออก ที่ปรึกษาสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ ผู้ประกอบการภาคขนส่ง ที่ใช้บริการท่าเรือ กรุงเทพฯ และได้รับผลกระทบจากการหยุดงานประท้วงของพนักงาน สมาชิกของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การท่าเรือแห่งประเทศไทย กลุ่มหนึ่ง ในช่วงที่ผ่านมา จะเปิดแถลงข่าว เพื่อเปิดเผยข้อมูลปัญหา การทุจริต ในพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ หรือปัญหาส่วยท่าเรือ และพร้อมเปิดโปงข้อมูล “ค่าล่วงเวลา หรือโอทีอัปยศ” ให้สังคมได้รับทราบ ซึ่งเรื่องทั้งหมดยืนยันว่าสมาคมฯ มีหลักฐาน ที่จะเปิดโปงในวันพรุ่งนี้ โดยประเด็นแรก เรื่องปัญหาส่วยท่าเรือนั้น ผู้ประกอบการต้องแบกรับต้นทุนแฝง ดังกล่าวมานานนับสิบปี แต่ละปีมีต้นทุนที่ผู้ประกอบการต้องจ่าย ประมาณ 300-400 บาท ซึ่งลักษณะการจ่ายส่วยนี้ ผู้ประกอบการที่ขนส่งสินค่า จ้องจ่ายส่วยให้แก่พนักงาน ที่คุมเครื่องจักรยกตู้สินค้า มีการกำหนดอัตราเป็นระบบ เช่น ยกตู้เปล่าตู้ละ 50 บาท ตู้มีสินค้า ตู้ละ 100 บาท หากผู้ประกอบการไม่จ่าย ก็จะไม่มีเจ้าหน้าที่ยกสินค้าให้ ทำให้งานล่าช้าหลายชั่วโมง จนอาจทำให้สินค้า ส่งไม่ทันเวลา หรือถ้าเป็นของสด ก็จะเน่าเสีย ผู้ประกอบการเห็นว่า ปัญหาเรื่องส่วยท่าเรือนี้ ควรจะหมดไปได้แล้ว เพราะเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และรัฐบาลชุดนี้ ได้ประกาศชัดเจนว่า จะจัดการกับปัญหาการทุจริต ในทุกหน่วยงานของภาครัฐ ดังนั้น ผู้ประกอบการขนส่ง ก็จะขอให้รัฐบาลชุดนี้ จัดการปัญหาส่วยท่าเรือนี้อย่างจริงจังเสียที นายทองอยู่ กล่าว นายทองอยู่ กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหาโอที อัปยศ ซึ่งที่ผ่านมา พนักงานการท่าเรือ ที่ทำงานล่วงเวลา และได้รับค่าตอบแทนแบบเหมาจ่าย ได้ออกมาฟ้องร้องขอคิดค่าล่วงเวลาเป็นรายชั่วโมง และชนะคดี จนเป็นภาระที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย ต้องจ่ายค่าล่วงเวลาย้อนหลัง จำนวนมหาศาล ทางสมาคมฯ จะเปิดโปงว่า ที่ผ่านมา มีคนบางกลุ่ม ที่เบิกค่าล่วงเวลา แต่ไม่ได้ทำงานจริง ตอกบัตรเสร็จก็ไปทำธุระส่วนตัว ทำให้ผู้บริหารของการท่าเรือฯ ในช่วงที่ผ่านมา ไม่อยากจ่ายค่าตอบแทนในลักษณะดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ ผู้ประกอบการก็จะเปิดโปง เพราะการท่าเรือก็เป็นรัฐวิสาหกิจ มีหน้าที่ต้องนำส่งรายได้แก่รัฐ หากขาดทุน ก็เป็นภาระแก่งบประมาณ ซึ่งเป็นภาษีของประชาชน ซึ่งสังคมควรจะตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวเสียที.