สุขุมพันธุ์ ชูนโนบายผู้สูงอายุแบบครบวงจร หากได้กลับมาเป็นผู้ว่าฯ สมัยที่ 2 วันที่ 3 ก.พ. ที่ลานข้างศูนย์สร้างโอกาสเด็กสวนลุมพินี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.และคณะ ร่วมเสวนาเปิดตัวกลุ่มพลังสูงวัยเพื่อรับฟังความเห็นมาใช้ในการพัฒนา กทม.ทั้งนี้มีผู้อาวุโสที่เข้าร่วมสะท้อนปัญหา ได้แก่ ศ.ระพี สาคริก อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตสมาชิกวุฒิสภา กทม.และอธิบดีกรมชลประทาน ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ อดีต ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนาองค์การเภสัชกรรม ผู้ช่วย ศ.ยงยุทธ จรรยารักษ์ อาจารย์พิเศษภาควิชาพฤกษศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้กล่าวถึงนโยบายที่จะนำไปปฏิบัติต่อผู้สูงอายุ หากได้กลับมาเป็นผู้ว่าฯ กทม.อีกครั้งว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ที่เป็นผู้ว่าฯ กทม.ตนได้สั่งให้ทำทางสัญจร และทางลาดสำหรับผู้สูงอายุ 3,850 จุด โดยมีเป้าหมายเพิ่มปีละ 350 จุด เป็นเวลา 4 ปี และจะมีการปรับปรุงไปเรื่อยๆ 2.คือทำสัญญาณข้ามถนนให้ผู้สูงอายุและคนพิการเพิ่ม รวมไปถึงทำลิฟต์ ที่สถานี BTS เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุเพิ่มอีก 100 ตัว จากเดิมที่มีเพียง 11 ตัวเท่านั้น ขณะเดียวกันที่ผ่านมาสมัยเป็นผู้ว่าฯ กทม. ได้มีการสร้าง รพ.ผู้สูงอายุ เขตบางขุนเทียน เพื่อที่จะดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งนอกจาก รพ.ผู้สูงอายุแล้ว ยังจะเพิ่มขีดความสามารถของศูนย์บริการทั้ง 68 แห่งทั่ว กทม.อีกด้วย ซึ่งเป็นการสร้างระบบแบบครบวงจร ไม่ใช่แต่เพียงการสร้าง รพ.ผู้สูงอายุเขตบางขุนเทียนเพียงแห่งเดียว แต่จะสามารถดูแลผู้สูงอายุทั่ว กทม.ได้ ทั้งนี้ ตนมีแนวความคิดอยากให้ผู้สูงอายุทุกคนมีความอบอุ่น โดยจะใช้พื้นที่ใกล้เคียง รพ.บางขุนเทียนในการเปิดเป็นชุมชนสำหรับดูแลผู้สูงอายุที่ลูกหลานสามารถพาบุคคลสำคัญของครอบครัวไปทำกิจกรรมภายนอกได้ รวมทั้งจะมีแนวคิดที่จะสร้างชุมชนสำหรับผู้สูงอายุอีกที่ดอนเมืองอีกแห่งด้วยเช่นกัน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว ในขณะที่ผู้สมัครท่านอื่นที่ได้มาร่วมงานการเปิดตัวกลุ่มพลังสูงวัย อาทิ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส นายสุหฤท สยามวาลา นายโฆสิต สุวินิตจิต ก็ได้แสดงวิสัยทัศน์ด้วยการตอบคำถามด้วยเช่นกัน โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า พร้อมที่จะทำที่จอดรถและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุไว้เป็นกรณีพิเศษ รวมถึงการจัดสวัสดิการในการรักษาพยาบาล และมีค่าตอบแทนในการดำรงชีพผู้สูงอายุทุกคน ซึ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มั่นใจว่านโยบายที่เสนอมาไม่จำเป็นต้องหางบมาเพิ่ม เพราะเชื่อว่าจะสามารถนำงบที่ถูกทุจริตมาใช้ในโครงการนี้แทนได้ ด้านนายโฆสิต สุวินิตจิต ผู้สมัครอิสระ ชูนโยบายเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวและธุรกิจภายใน กทม.เชิงวัฒนธรรมและศาสนา และมีแนวคิดที่จะสร้างโรงเรียนประจำใน กทม.เพื่อให้พ่อแม่ ผู้ปกครองที่ต้องทำงาน ไม่มีเวลาดูแลเด็กและเยาวชนนำบุตรหลานของตนมาฝากให้ได้รับการศึกษา ส่วนนายสุหฤท สยามวาลา ชูนโยบายเน้นความสุขของผู้สูงอายุ และคน กทม.เป็นหลัก การบริหารจัดการ กทม.ไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้งบประมาณเพียงอย่างเดียว แต่ต้องปรับแก้ที่ตัวคนด้วย มีคนมากมายใน กทม.ที่เขายังไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง ตรงนี้ตนมองว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะผู้สูงอายุไม่ได้ต้องการเงินเพียงอย่างเดียว แต่เขาต้องการความสุขในชีวิตด้วยเช่นกัน
No comments:
Post a Comment