Sunday, February 3, 2013

โสภณ ลุย ร.ร.เทพศิรินทร์ หาเสียงในฐานะศิษย์เก่า

โสภณ ลุย ร.ร.เทพศิรินทร์ หาเสียงในฐานะศิษย์เก่า
โสภณ หมายเลข 4 เสนอพัฒนาตลาดน้ำ พร้อมลุย ร.ร.เทพศิรินทร์บ่ายนี้ในฐานะศิษย์เก่า... ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 กล่าวถึงนโยบายสำคัญในการพัฒนากรุงเทพมหานคร โดยเมื่อวันที่ 3 ก.พ. ได้ไปร่วมตักบาตรและหาเสียง ณ ตลาดน้ำขวัญเรียม จึงเสนอแนวคิดต่อการพัฒนาตลาดน้ำว่า เพื่อร่วมรักษาวัฒนธรรมไทย ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น และส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน สิ่งที่เข้าใจก็คือการตลาดเพื่อการท่องเที่ยวเป็นทรัพย์สินที่จับต้องไม่ได้ ขึ้นอยู่กับการกระตุ้นความพึงพอใจ ความสุขสบายใจ ความตื่นเต้นและสิ่งเร้า เป็นต้น จะเห็นได้ว่าการตัดสินใจซื้อสินค้าใช้อารมณ์มากกว่า และมีลักษณะตามฤดูกาล จึงต้องมีการบริหารที่ดี ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครจึงควรส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ นอกเหนือจากตัวตลาดก็คือการเชิญชวนมาท่องเที่ยวต่อเนื่อง การอำนวยความสะดวกในการเดินทาง การบริการในระหว่างการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังพึงส่งเสริมการเที่ยวชมศาสนสถาน โบราณสถานเก่าแก่ และจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น การพายเรือ โดยเฉพาะการสนับสนุนการจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของพื้นที่ ผู้ค้ารายย่อย บริการสิ่งอำนวยความสะดวก การจัดส่งสินค้า ฯลฯ โดยเน้นการส่งเสริมสร้างความรู้จักต่อเนื่อง การบริหารจัดการพื้นที่ เช่น การดูแลค่าเช่าที่เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย การตรวจสอบคุณภาพสินค้าและบริการที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย การให้ข้อเสนอแนะต่อการกำหนดราคาสินค้าและบริการที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย จะเป็นหลักประกันคุณภาพและเป็นการสร้างแบรนด์ในระยะยาวให้กับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแบบบ้านๆ ที่ต้องอาศัยการจัดการแบบมืออาชีพ ซึ่งองค์กรชาวบ้านเองก็ดำเนินการได้ภายใต้การสนับสนุนของ กทม. ในส่วนนโยบายการพัฒนาศูนย์บริการสาธารณสุข ปัจจุบันปัญหาของศูนย์คือกำลังคนมีน้อย ไม่เพียงพอ เครื่องมือแพทย์ค่อนข้างเก่ามาก ยาและการจ่ายยาก็ไม่เพียงพอ ดังนั้นทุกวันนี้ ศูนย์จึงเปิดบริการเฉพาะวันจันทร์-พฤหัสฯ ในขอบเขตงานที่จำกัดมาก และมีจำนวนลำดับผู้ใช้บริการที่จำกัดมาในแต่ละวัน ส่วนวันศุกร์ก็มักไม่รับคนไข้ และในช่วงบ่ายก็จะหยุดให้บริการโดยปริยาย ข้อเสนอคือการเพิ่มงบประมาณด้านสาธารณสุข เพื่อไม่ให้มีเพียงการตั้งศูนย์อยู่ในทางกายภาพ แต่ควรมีการทำหน้าที่ที่ดีด้วยการจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์เก่าไปเสีย เร่งรัดขั้นตอนการซ่อมบำรุงเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ในสำนักงาน ซื้ออุปกรณ์ใหม่ และมีสำรองไว้เพื่อใช้สอย และหรือเช่า เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน สำหรับในระยะยาว ดร.โสภณ เสนอให้พัฒนาศูนย์บริการสาธารณสุขให้เป็นโรงพยาบาลชุมชน เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร โดยอาจเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กไม่เกิน 20 เตียง เพื่อขยายโอกาสการรักษาพยาบาลแก่ชาวกรุงเทพมหานคร หรืออย่างน้อยอาจเน้นการรับผู้ป่วยนอก (OPD) เพื่อให้บริการได้อย่างทั่วถึง กทม. ยังควรเสริมบุคลากรเพิ่มเติมในศูนย์ เช่น ตำแหน่งนักสังคมสงเคราะห์ พยาบาลภาคสนาม เพื่อการให้บริการในเชิงรุกในพื้นที่ในด้านการสาธารณสุขในมิติต่างๆ นอกเหนือจากการรอให้บริการเท่านั้นนอกจากนี้ได้ชูนโยบายการเติบโตของเมืองอย่างชาญฉลาด (เมืองชาญฉลาด หรือ Smart Growth) มากระจายความเจริญในใจกลางกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ชานเมืองที่สิ่งอำนวยความสะดวกยังไม่เพียงพอ โดยแนวคิดนี้คือการพัฒนาเมืองโดยรวมศูนย์ความเจริญอยู่ภายในเมืองเพื่อป้องกันปัญหาการเติบโตอย่างไม่มีที่สิ้นสุดไปสู่ชานเมือง (Urban Sprawl) และทำให้ศูนย์กลางเมืองในย่านชานเมืองมีความอยู่ตัวในตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพิงใจกลางเมือง ไม่ต้องเดินทางเข้าเมือง หลักการ 10 ประการสำคัญของแนวคิดนี้คือ การสร้างโอกาสที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย การสร้างชุมชนที่เดินถึงกันได้ การสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน การสร้างอัตลักษณ์ของท้องที่ การตัดสินใจพัฒนาที่คาดการณ์ได้ เป็นธรรมและคุ้มค่า การใช้ที่ดินแบบผสมผสาน การรักษาสภาพแวดล้อมที่ดี การมีทางเลือกการคมนาคมขนส่งที่หลากหลาย การพัฒนาชุมชนที่มีอยู่แล้ว (ไม่ใช่สร้างชุมชนใหม่) และการออกแบบอาคารที่มีประสิทธิภาพแต่ไม่หนาแน่นเกินไป 
 
สำหรับกำหนดการลงพื้นที่หาเสียงในวันนี้ (4 ก.พ.) เวลา 10.00 น. จะลงพื้นที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟฟ้า MRT หน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อชมต้นแบบการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย และการใช้สอยพื้นที่เพื่อการพัฒนาเมืองอย่างหนาแน่นแต่ไม่แออัดในบริเวณดังกล่าว และพาชมอาคารสูงสำหรับผู้มีรายได้น้อย จากนั้นในเวลา 12.00 น. ลงพื้นที่บริเวณโรงเรียนเทพศิรินทร์ ถ.กรุงเกษม โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย จะไปหาเสียงในฐานะนักเรียนเก่าโรงเรียนเทพศิรินทร์ และเสนอความเห็นเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาการศึกษาของกรุงเทพมหานคร.

No comments:

Post a Comment

Blog Archive