Sunday, February 3, 2013

เจ้าพ่อคอมมาร์ต กระซิบดังๆ ถึง(ว่าที่)ผู้ว่าฯ ขอพื้นที่ให้คนกทม.ใช้ชีวิต!

เจ้าพ่อคอมมาร์ต กระซิบดังๆ ถึง(ว่าที่)ผู้ว่าฯ ขอพื้นที่ให้คนกทม.ใช้ชีวิต!
ฝากถึงบรรดาผู้สมัครฯ ระวังใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กผิดวิธี ทำคะแนนเสียงหดล้วงมุมมองคนไอทีตัวจริงอย่าง ปฐม อินทโรดม เจ้าพ่องานคอมมาร์ตเมืองไทย ฝากผู้ว่า กทม. คนที่ 16 เร่งคลายปมปัญหารถติด แนะระวังภัยใช้โซเชียลเรียกคะแนนกลายเป็นทำร้ายตัวเอง วอนหนุนเอกชนเดินหน้าไอที...นายปฐม อินทโรดม กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานคอมมาร์ต เปิดเผยว่า สิ่งที่ชอบที่สุดใน กทม. ตอนนี้ คือชอบที่มีแหล่งให้ความรู้ต่างๆ มากขึ้นทั้งห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ แม้บางแห่งจะไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กทม. แม้จะมีบางแห่งปิดไป เช่น พิพิธภัณฑ์เด็ก ซึ่งคิดว่าอาจปิดปรับปรุงจึงขอเอาใจช่วย เพราะคิดว่าคนกรุงเทพฯ​ ไม่ได้ต้องการแค่สวนสีเขียว แต่เราขาดแหล่งให้ความรู้กับเยาวชนซึ่งยังสามารถทำได้อีกมากเรื่องที่ไม่ชอบใน กทม. และคิดว่าคนอื่นๆ คงคิดเหมือนกันก็คือปัญหาการจราจร คน กทม. ควรมีทางเลือกที่ดีกว่านี้ ปัจจุบันเราออกเดินทางกันแบบไม่มีทางเลือก แม้จะมีแอพพลิเคชั่นให้ได้ตรวจสอบสภาพการจราจรก่อนเดินทาง แต่อย่าลืมว่าประชากรในกรุงเทพฯ ทุกคนไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟน ควรมีระบบสื่อสารกับประชาชนที่ดีกว่านี้ ซึ่งหากทำได้ก็จะสามารถปรับปรุงปัญหาการจราจรหรือหาทางหลบเลี่ยงได้ เพราะปัญหาจราจรเป็นเรื่องใหญ่ของคนกรุงเทพฯ ผมคิดว่ามีทางแก้อยู่หลายทาง การให้ข้อมูลเป็นทางออกทางหนึ่ง คนจำนวนไม่น้อยไม่เร่งรีบกับชีวิต บางคนรู้ว่าช่วงเวลานี้รถกำลังติดแม้ถึงเวลาเลิกงาน แต่เขาก็ยังไม่ออกเดินทางในช่วงนั้นแต่เลือกที่จะรอให้รถคล่องตัวก่อน ควรมีการจัดการข้อมูลที่ทำได้ดีกว่านี้ จะหวังพึ่งแต่ จส.100 สวพ.91 แค่นี้ไม่ได้ ต้องมีช่องทางอื่น ซึ่งเทคโนโลยีสามารถเป็นส่วนเสริมได้อีกมาก ถ้าพูดถึงเทคโนโลยีก็อย่าผูกติดแค่ทำเป็นแอพพลิเคชั่นเพราะคนใช้งานน้อย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมคิดว่าผู้ว่าฯ คนต่อไปควรใส่ใจให้มากกรุงเทพฯ ในอนาคตต้องน่าอยู่ โดยส่วนตัวคิดว่าหากมองประเทศเพื่อนบ้าน แน่นอนว่าเขารวยกว่าประเทศเรามาก เช่น สิงคโปร์ ซึ่งในอดีตเขาเป็นเมืองที่ไม่น่าอยู่ แม้ว่าเมืองเขาจะสวย สะอาดตา พื้นที่สีเขียวเยอะแต่ไม่น่าอยู่เพราะว่าเครียด เป็นเมืองที่เหมาะแก่การทำงาน คนจึงไม่รู้สึกรีแลกซ์กับเมือง กรุงเทพฯ พยายามพัฒนาอะไรมาหลายอย่าง คำว่าน่าอยู่สำหรับผมคือการมีอะไรที่เหมาะกับแต่ละคน แต่ละวัย แต่ละกลุ่ม เราเป็นเมืองหลวงที่พยายามพัฒนาระบบสาธารณูปโภค แต่จะให้มองเพียงแค่นั้นไม่ได้ เพราะต้องยอมรับว่าการพัฒนาเพียงด้านใดด้านหนึ่งอาจทำให้อีกหลายด้านด้อยคุณภาพลง ในรอบหลายปีที่ผ่านมา กรุงเทพฯ ก็มีการเพิ่มพิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี่ศิลปะ ซึ่งเป็นด้านดี พูดง่ายๆ คือ กรุงเทพฯ​ ควรมีครบทั้งความความรู้ ความบันเทิง การพักผ่อนหย่อนใจ นั่นถึงจะเรียกว่าเป็นการเพิ่มทางเลือกให้คนในเมืองได้ใช้ชีวิตอย่างแท้จริงฝากถึงผู้สมัครทุกท่าน แทนที่จะใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเพื่อเรียกคะแนนให้คนไปเลือก แต่ปีนี้ อาจกลายเป็นการใช้เพื่อกระตุ้นให้คนไม่เลือกคุณได้เช่นกัน ผลลบจากการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กครั้งนี้แรงกว่าที่คิด และสำหรับเรื่องอื่นๆ ก็อยากจะฝากว่า อะไรที่ทำไม่ได้ก็อย่ามาพูด เพราะมันยิ่งทำให้คุณมีแต่เสียกับเสีย โดยเฉพาะเรื่องไฮเทคทั้งหลาย ความเห็นส่วนตัวผมคือเอกชนเขาทำได้ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องจำเป็นต้องทำอะไรทับซ้อนหรือเอื้อให้เขา เพราะเขามีความเพียบพร้อมอยู่แล้ว ไม่จำเป็นจะต้องแข่งขันหรือไปเอาหน้าจากเขามาสนับสนุนเขาดีกว่าครับ นายปฐม กล่าว.

No comments:

Post a Comment

Blog Archive