ไอ้เปี๊ยกแฉตัวทหารแตงโมชุดปฏิบัติการไอ้โม่ง10เมษา53

ไอ้เปี๊ยกแฉตัวทหารแตงโมชุดปฏิบัติการไอ้โม่ง10เมษา53



คมชัดลึก : "รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง" เมื่อกองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มี "ทหารแตงโม-ตำรวจมะเขือเทศ" ปฏิบัติการหนามยอกเอาหนามบ่ง ด้วยการ "ซื้อตัว" การ์ดแดงไว้คอย "แจ้งข่าว" ก็เกิดขึ้นควบคู่กัน ?!!






 ปฏิเสธไม่ได้ว่า การสืบสวนปราบปรามของตำรวจทหารจะประสบความสำเร็จได้ก็ด้วย "การข่าว" ที่ดี และการข่าวที่ดีย่อมเกิดจาก "สายข่าว" ที่ดีด้วยเช่นกัน ในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยืดเยื้อยาวนานเกินขวบเดือนแล้วนั้น ชุดสืบสวนของทหารตำรวจก็มีการวางสายข่าวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่เฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ชุมนุมและการ์ด นปช.เอง
 แม้จะไม่เป็นที่เปิดเผย แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นสิ่งปกปิด และถึงแม้แกนนำเสื้อแดงจะปฏิเสธว่า ไม่มีการว่าจ้างผู้ชุมนุมหรือการ์ดเสื้อแดงให้มาทำหน้าที่ แต่ข้อเท็จจริงลึกๆ แล้วไม่ใช่ทั้งหมด
 เพราะอย่างน้อยการ์ดเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ของเสธ.คนดังก็รับเงินรับตังค์เพื่อมาปฏิบัติหน้าที่อยู่ในที่ชุมนุมเช่นกัน ?!!
 ด้วยเหตุนี้ ตำรวจกับทหารจึงเสนอสินต่างตอบแทนให้แก่ผู้ชุมนุมและการ์ดเสื้อแดงบางคนให้เป็นสายคอยแจ้งข่าวความเคลื่อนไหวทุกเรื่องให้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบ
 "งบลับที่ใช้ในงานนี้มีส่วนสำคัญทำให้งานเดินหน้าไปได้ การชุมนุมใหญ่ลักษณะนี้การจะเจาะเข้าไปถึงวงในจริงๆ ทำได้ค่อนข้างยาก เลยใช้วิธีจ่ายค่าตอบแทนให้แก่สาย โดยมากกว่าเงินเบี้ยเลี้ยงที่พวกเขาได้รับ" เจ้าหน้าที่ด้านการข่าวความมั่นคง กล่าว
 เขายืนยันว่า เงินตอบแทนที่ค่อนข้างมากสามารถ "ซื้อตัว" ผู้ชุมนุมและการ์ดบางคนให้เป็นสายได้ !?!
 และด้วยการข่าวที่ชัดเจนก็ส่งผลสำเร็จในปฏิบัติการจับกุม "เมธี อมรวุฒิกุล" แนวร่วมเสื้อแดง ตามด้วย "ชลุต ใหลเจริญ" หัวหน้าการ์ดเสื้อแดง ลูกน้องคนสนิทเสธ.คนดังในเวลาต่อมา ซึ่งถือเป็นเศษเสี้ยวหนึ่งของการแจ้งข่าวจากสายที่ถูกซื้อตัว
 หลังปฏิบัติการจับกุมเมธีได้ไม่นาน ชุดสืบสวน สตช.ก็ได้รับรายงานข่าวกลับเข้ามาอีกชิ้นหนึ่งว่า ผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถตู้บรรทุกชุดปฏิบัติการไอ้โม่งเข้ามาสร้างสถานการณ์ความรุนแรงเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 นั้นเป็นใคร
 "เขาบอกว่าคนขับรถตู้วันปะทะที่สี่แยกคอกวัวชื่อ 'ชยุต ใหลเจริญ' หรือเปี๊ยก ทำธุรกิจค้ารถมือสองอยู่แถวบางบอน"
 เมื่อได้ข้อมูลเบื้องต้น ชุดสืบสวนจึงตรวจสอบประวัติพบว่า มีตัวตนอยู่จริง อาศัยอยู่ในบ้านพักหลังใหญ่ ย่านถนนเอกชัย แขวงและเขตบางบอน กรุงเทพฯ และมีธุรกิจส่วนตัวเป็นเต็นท์รถมือสองอยู่แถวบางบอนจริง ชุดสืบสวนจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงและศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ทราบ แล้วตัดสินใจเดินทางไปเชิญตัวมาสอบสวน
 ระหว่างการรายงานเหตุและขอคำตัดสินใจอยู่นั้น ชุดสืบสวนอีกชุดได้เฝ้าประกบอยู่ตลอดเวลา ต่อมาวันที่ 26 เมษายน 2553 เมื่อได้รับคำสั่งชุดสืบสวนที่ประกบอยู่ก็เชิญตัวมาสอบปากคำ
 หนึ่งในชุดสืบสวนจับกุมบอกว่า การสอบปากคำเบื้องต้นชยุตให้ข้อมูลชัดเจนว่า คนที่อยู่บนรถตู้ขนชุดปฏิบัติการไอ้โม่ง 10 เมษา 53 นั้น ประกอบด้วยทหารประจำการ อดีตทหารพราน และพลเรือนจำนวนหนึ่ง
 หลังเกิดการเผชิญหน้า ชยุตขับรถพาไปยังหลังแนวทหาร ชุดปฏิบัติการไอ้โม่งส่วนหนึ่งกราดยิงจากบนรถตู้ ส่วนเมธีนั้นชยุตอ้างว่าเป็นคนใช้ปืน.38 ยิงใส่เฮลิคอปเตอร์ที่บินวนอยู่แถวสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ซึ่งการสอบปากคำครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ ศอฉ.ร่วมสอบปากคำและบันทึกภาพไว้เสร็จสรรพเช่นเดียวกับการสอบปากคำเมธี
 เจ้าหน้าที่ระดับสูงของดีเอสไอบอก "คม ชัด ลึก" ว่า การให้ปากคำของชยุตค่อนข้างชัดเจนและสอดคล้องกับข้อมูลที่ได้จากเมธี โดยชยุตถือเป็นคนสนิทของเสธ.คนดัง เวลาจะใช้งานเสธ.คนดังก็จะให้เงินไปดำเนินการ ทั้งนี้ ชยุตได้เงินค่าจ้างในการขับรถในคืนปะทะที่สี่แยกคอกวัวเป็นเงิน 2 หมื่นบาท ขณะนี้รายชื่อผู้เกี่ยวข้องบนรถตู้ชุดสืบสวนสอบสวนทราบหมดแล้วว่ามีใครบ้าง
 "ตอนนี้ได้ประสานงานไปยัง ศอฉ.รายงานเรื่องทั้งหมดให้ทราบแล้ว โดยเฉพาะข้อมูลทหารประจำการที่อยู่บนรถตู้ ทราบมาว่า ศอฉ.ได้ควบคุมตัวทหารที่เกี่ยวข้องตามรายชื่อที่ให้ไปมาสอบปากคำแล้ว แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อหา รายละเอียดการสอบปากคำยังไม่ทราบ ส่วนอดีตทหารพรานกับพลเรือนอยู่ระหว่างการพิจารณาขออนุมัติหมายจับในเร็วๆ นี้" เจ้าหน้าที่ระดับสูงดีเอสไอ กล่าว
 ต้องจับตาดูต่อไปว่า เมื่อตัวละครถูกเปิดโปงออกมาเช่นนี้แล้ว จะสามารถระงับยับยั้งเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการเผชิญหน้าของกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองได้หรือไม่ !?!










NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6