Saturday, March 20, 2010

ฮือฮาน้ำพุร้อนผุด ลือศักดิ์สิทธิ์ รักษาโรคได้หมด

ฮือฮาน้ำพุร้อนผุด ลือศักดิ์สิทธิ์ รักษาโรคได้หมด

ชาวบ้าน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ตื่นน้ำพุร้อนผุดข้างลำห้วย แห่ไปอาบน้ำวันละ 200-300 คน ร่ำลือกันว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ รักษาโรคได้หลายชนิด โดยเฉพาะ ปวดเมื่อย เหน็บชา หายหมด ชาวบ้านตั้งศาลบูชาเซ่นไหว้..เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ขณะนี้ที่หมู่ 3 ต.ห้วยยูง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ มีชาวบ้านนับร้อยคนแห่ไปอาบน้ำพุร้อนที่ผุดขึ้นมาข้างลำห้วย ในสวนยางพาราของชาวบ้าน โดยเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ช่วยรักษาโรคได้ จึงเดินทางไปตรวจสอบ โดยมีนายสมชาย มาศชาย รองนายก อบต.ห้วยยูง ร่วมตรวจสอบด้วย เมื่อไปถึงพบชาวบ้านจำนวนกว่า 100 คน ผลัดกันลงไปอาบน้ำพุร้อน บ้างก็นำน้ำใส่ถังนำกลับบ้าน โดยตักน้ำจากบ่อซึ่งทำด้วยท่อซีเมนต์ขนาดกว้าง 80 ซม. ซึ่งน้ำดังกล่าวไหลลงมาจากบ่อขนาดใหญ่อีกบ่อที่ลำห้วย ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของน้ำพุร้อนดังกล่าว นอกจากนี้ ที่ข้างบ่อน้ำพุร้อน มีการตั้งศาลพระภูมิเจ้าที่ มีชาวบ้านนำสิ่งของไปเซ่นไหว้ พร้อมทั้งมีป้ายเขียนข้อความระบุว่า “บ่อน้ำร้อนนี้ เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ อาบได้หายจากโรคภัยไข้เจ็บทุกสิ่ง ห้ามผู้ใดทำสิ่งที่ไม่ดีมิควรเด็ดขาด และโปรดรักษาความสะอาด” และมีป้ายห้ามน้ำสบู่หรือผงซักฟอกลงไปด้วยนางจินดา ณ ถลาง อายุ 60 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งเดินทางมาอาบน้ำร้อนดังกล่าว บอกว่า ที่มาเพราะชาวบ้านในหมู่บ้านทราบข่าวว่า มีน้ำพุร้อนผุดขึ้นมาข้างลำห้วยแห่งนี้ และมีเสียงร่ำลือว่าน้ำพุร้อนดังกล่าว สามารถรักษาโรคได้หลายชนิด โดยเฉพาะโรคปวดเมื่อยตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย จึงงได้เดินทางมาอาบได้เกือบ 10 วันแล้ว โดยมาเฉพาะตอนเช้า ซึ่งก็ทำให้อาการปวดเมื่อยที่เป็นมานานเริ่มทุเลาลงขณะที่นาย สมุทร ก่อกิจติพงศ์ อายุ 60 ปี ชาวบ้านอีกราย กล่าวว่า ตนป่วยเป็นโรคปวดเมื่อยที่หลัง ไปรักษากับแพทย์มาหลายแห่ง ก็ยังไม่หาย พอทราบข่าวว่ามีน้ำร้อนผุดขึ้นมาในสวนยางข้างลำห้วย จึงได้เดินทางมาทดลองอาบดู โดยอาบน้ำร้อนแห่งนี้มาประมาณครึ่งเดือน พบว่าอาการดีขึ้นมาก ตนเดินทางมาอาบในช่วงเช้า และช่วงเย็นของทุกวันนายสมชาย มาศชาย รอง นายก อบต.ห้วยยูง กล่าวว่า สถานที่แห่งนี้มีชาวบ้านเดินทางมาอาบน้ำกันประมาณ 200-300 คนต่อวัน ทาง อบต. จึงได้จัดทำเส้นทางโดยการปรับสภาพพื้นที่ทางขึ้นลงให้มั่นคงแข็งแรง ใช้ไม้ปูพื้นบนคานซีเมนต์ และน้ำท่อน้ำขนาดใหญ่มาคอยรับน้ำร้อนที่ไหลมาจากบ่อ เพื่อให้ชาวบ้านได้ตักมาอาบ และน้ำที่อาบเสร็จก็จะไหลลงลำห้วย ซึ่งจะได้ไม่สกปรก ส่วนแนวทางการพัฒนานั้น ขณะนี้ อบต. ได้เชิญนักวิชาการมาตรวจสอบสภาพน้ำ พบว่าน้ำดังกล่าวมีอุณหภูมิอยู่ที่ 40 องศา มีส่วนผสมของแร่ธาตุหลายชนิด ในอนาคตหากมีชาวบ้านและประชาชนทั่วไปดินทางมามากขึ้น ก็อาจต้องพัฒนา แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับเจ้าของที่ดิน ว่าจะยอมหรือไม่อย่างไรต่อไป.

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive