Tuesday, March 16, 2010

ถอดรหัส..เอ็ม79ซีโฟร์กับบทบาทการเมืองข้างถนน

ถอดรหัส..เอ็ม79ซีโฟร์กับบทบาทการเมืองข้างถนน




คมชัดลึก :ทุกครั้งที่การเมืองระอุอ้าวรอวันปะทุ เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 มักถูกนำมาใช้เป็นตัวแปรให้เหตุการณ์ดูรุนแรง และก่อนถึงวันพิพากษาคดี 7.6 หมื่นล้านบาทของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เครื่องยิงลูกระเบิดชนิดนี้ก็ออกมาทำหน้าที่...อีกครั้ง






 ครั้งหลังสุดเกิดขึ้นข้างทำเนียบรัฐบาล ด้วยเจตนามุ่งขู่ขวัญทำลายเสถียรภาพภาครัฐมากกว่าจะสร้างความเสียหายแก่สัญลักษณ์แห่งอำนาจรัฐ ตามมาด้วยการวางซีโฟร์หนัก 3 ปอนด์ ไว้ข้างกำแพงศาลฎีกา
 แน่นอนว่าทุกคนพุ่งเป้าไปยังคนต่างขั้วที่หวังผลต่อคำพิพากษา 26 กุมภาฯ นี้
 หลายคนอาจสงสัยเหตุใดเอ็ม 79 ถึงมีบทบาทต่อการเมืองข้างถนนของไทยมากขนาดนี้ ก็พออนุมานได้ว่า กลุ่มขัดแย้งการเมืองต่างก็ "ถนัด" ถึงขั้น "ช่ำชอง" ในอาวุธชนิดนี้ ?!!
 หากจะถอดรหัสเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 หาที่มาคงพอสรุปได้ว่า เป็นเครื่องยิงลูกระเบิดแบบประทับบ่า วิถีโค้ง ใช้ยิงลูกระเบิดขนาด 40 มิลลิเมตร ออกแบบครั้งแรกโดยศูนย์วิจัยของกองทัพสหรัฐอเมริกาที่ SPRINGFIELD ARMORY เมืองสปริงฟิลด์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ระหว่างปี 2496-2513 เริ่มใช้งานในลักษณะอาวุธประจำกายของทหารอเมริกัน ตั้งแต่ปี 2514 เรื่อยมา ผ่านการใช้ในสงครามเวียดนาม สงครามหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ สงครามอ่าวเปอร์เซีย และสงครามอิรัก  
 เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 บรรจุกระสุนแบบหักลำกล้อง ทำงานขับเคลื่อนด้วยแก๊ส อัตราการยิง 6 นัดต่อนาที ระยะหวังผล 150 เมตร ปัจจุบันเครื่องยิงชนิดนี้มีใช้งานในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ทั้งในหน่วยรบและสามารถใช้บรรจุกระสุนแก๊สน้ำตาสำหรับการปราบจลาจลได้ด้วย  
 ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืนหน่วยงานของรัฐแห่งหนึ่งเปิดเผยกับ "คม ชัด ลึก" ว่า เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 เป็นอาวุธในหมู่ทหารและกองทัพต่างๆ ที่ใช้สนับสนุนยานพาหนะจำพวกรถถัง เพราะมีน้ำหนักเหมาะมือ ระยะหวังผล 150 เมตร ระยะยิงไกลสุด 350 เมตร บรรจุกระสุนได้ทีละนัด โดยหักลำกล้องกดปากกระบอกปืนลง เหมือนกับหักลำปืนลูกซอง แล้วค่อยใส่กระสุน 40 มิลลิเมตรเข้าไปทางกระบอกปืนกลางลำ ปืนที่มีลักษณะใกล้เคียงกันคือเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 203 ที่ติดกับอาวุธปืนยิงเร็วเอ็ม 16 ก็สามารถใช้ยิงในลักษณะเดียวกันนี้ได้
 "ตามแนวชายแดนไทยที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านยังหาซื้อเครื่องยิงชนิดนี้ได้ค่อนข้างง่าย ราคากระบอกละ 1,500-3,000 บาท ส่วนลูกกระสุนขนาด 40 มิลลิเมตร ราคาหลักร้อยบาท แต่ต้องรู้แหล่งซื้อขาย กรณีที่เกิดขึ้นล่าสุดมือระเบิดอาจจะยิงจากเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ก็ได้ หรือใช้เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 203 ก็ได้ เพราะถอดเข้าออกพกพาได้คล่องตัว โดยเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 203 นำมาใส่เหล็กแป๊บเป็นฐานก็ยิงได้เหมือนกัน"
 นอกจากจะใช้ยิงลูกระเบิดแล้ว เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ยังดัดแปลงนำมาใช้กับกระสุนแก๊สน้ำตาใช้ในการปราบจลาจล อย่างที่เคยเป็นข่าวอื้อฉาวเมื่อครั้งตำรวจใช้กำลังสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ตุลา 51 หรือใช้กับกระสุนระเบิดธรรมดา, กระสุนส่องแสงบอกตำแหน่งเป้าหมาย, กระสุนเคมีที่มีอำนาจทำลายล้างสูง หรือระเบิดนาปาล์ม หรือระเบิดเพลิง, กระสุนเคมี จำพวกแก๊ส, ระเบิดเชื้อโรค, กระสุนลูกปราย, กระสุนควันอำพรางตัว, กระสุนระเบิดดาวกระจาย และกระสุนระเบิดฮีเลียม เป็นต้น
 สำหรับคนที่ใช้ขอแค่ผ่านการฝึกทางยุทธวิธี ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือทหาร อดีตตำรวจ-อดีตทหารที่รู้หลักการทำงานและการบรรจุ ประทับยิง เพียงแค่นั้นก็สามารถใช้อาวุธชนิดนี้ได้ ส่วนจะแม่นยำขนาดไหนขึ้นอยู่กับความชำนาญ
 ทีนี้ลองหันมาดูระเบิดซีโฟร์กันบ้าง ซีโฟร์ (C-4) ย่อมาจาก COMPOSITION C-4 เป็นระเบิดพลาสติกชนิดหนึ่งใช้ทางการทหาร ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดจากหน่วยงานของรัฐอีกแห่ง บอกว่า ลักษณะทางกายภาพ ประกอบด้วย ดินระเบิดและอุปกรณ์สำหรับการจุดระเบิด โดยกระบวนการระเบิดเป็นปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งปฏิกิริยาเผาไหม้และปฏิกิริยาแตกตัว มีความร้อนเกิดขึ้นตามมามากมาย ซีโฟร์เป็นระเบิดที่ขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว เกิดความดันสูง ความดันของแก๊สเพียงพอทำลายตึกทั้งหลังและสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในรัศมีได้ขึ้นอยู่กับขนาดของระเบิด
 ซีโฟร์ มีส่วนผสมจากสารเคมี 4 ตัว ประกอบด้วย สารอาร์ดีเอ็กซ์ 91 เปอร์เซ็นต์ ผสมกับสาร polyisobutylene 2.1 เปอร์เซ็นต์ สารดีไอ 5.3 เปอร์เซ็นต์ และน้ำมันอีก 1.6 เปอร์เซ็นต์ เมื่อผสมกันแล้วจะใช้เครื่องกวนให้เข้ากันผ่านเข้าสู่ระบบการกลั่นและทำให้แห้งเหมือนก้อนดินเหนียว เพื่อให้ง่ายต่อการปั้นและขึ้นรูป นอกจากนี้ยังมีเคลือบดินระเบิดป้องกันไม่ให้เกิดระเบิดขึ้นเองเมื่อได้รับแรงสั่นสะเทือนเพียงเล็กน้อย เช่น ระหว่างการขนย้าย เป็นต้น
 ระเบิดซีโฟร์จะจุดระเบิดไฟฟ้าหรือรีโมทคอนโทรลจากระยะไกลก็ได้ เมื่อเชื้อปะทุทำงานดินระเบิดจะทำปฏิกิริยาเคมีอย่างต่อเนื่อง แก๊สที่เกิดจากแรงระเบิดเป็นไนโตรเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ จะขยายตัวด้วยความเร็วหลายหมื่นฟุตต่อวินาที หรือเกือบ 1 หมื่นเมตรต่อวินาที สิ่งที่อยู่ในรัศมีจะถูกทำลายทั้งหมด
 "ซีโฟร์ก็เหมือนกับระเบิดอื่นๆ คือต้องใช้พลังงานไปกระตุ้นให้ดินระเบิดเกิดความร้อนขึ้นก่อน แต่เนื่องจากสารผสมที่ได้มีความเสถียรภาพอยู่ระดับหนึ่ง จึงต้องใช้พลังงานจำนวนมากและการจุดระเบิดจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยใช้เชื้อปะทุซึ่งเป็นระเบิดแบบเล็กๆ เป็นตัวจุดระเบิด โดยระเบิดซีโฟร์ครึ่งกิโลกรัมสามารถหยุดรถถังแบบเอ็ม 112 หรือทำลายรถบรรทุกได้ทั้งคัน" ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด ให้ความเห็น
 








ข่าวที่เกี่ยวข้องสิ้นเสียงเอ็ม79-ซีโฟร์เปิดทางทหาร-ตร.เข้มจุดเสี่ยง สัญญาณ...อันตรายระเบิด-เอ็ม79เขย่าเมืองตั้ง2ทีมคลี่คดียิงเอ็ม79-วางซีโฟร์ศาลฏีกาฯ'พ.อ.อภิรัชต์'ปฏิเสธคนร้ายยิงเอ็ม79ในร.11รอ. อนุพงษ์ถก5ทบ.สั่งบี้เสธ.แดงหาหลักฐานโยงM79

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive